พล.อ.อนันตพร กาญจนรัตน์ รมว.พลังงาน กล่าวว่า การบริหารจัดการแหล่งปิโตรเลียมเอราวัณ และบงกชในอ่าวไทยที่จะหมดอายุสัมปทานในปี 2565-2566 จะเน้นการเจรจาเพื่อให้สิทธิแก่รายเดิมเป็นผู้บริหารจัดการต่อก่อนเพื่อให้การผลิตมีความต่อเนื่อง ซึ่งจะต้องให้ผลประโยชน์แก่ประเทศไทยมากที่สุด แต่หากไม่สำเร็จก็จะเปิดประมูลเพื่อหาผู้บริการจัดการสัมปทานแหล่งปิโตรเลียมดังกล่าวต่อไป
อย่างไรก็ตามแนวทางดังกล่าว จะมีการเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ซึ่งคาดว่าจะนำเสนอได้ทันการประชุมปลายเดือนพ.ค.นี้
ส่วนความคืบหน้าการแก้ไขร่างพ.ร.บ.ปิโตรเลียม และร่างพ.ร.บ.ภาษีเงินได้ปิโตรเลียมนั้น ขณะนี้ผ่านการตรวจของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาแล้วรอเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี และสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) หลังจากนั้นก็คาดว่าจะสามารถเปิดสัมปทานปิโตรเลียมรอบใหม่ ซึ่งเป็นรอบที่ 21 ต่อไป