ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ยังคงตัวเลขคาดการณ์การส่งออกของไทยในปี 59 ไว้ที่ 0% (โดยมีกรอบคาดการณ์ในช่วง -2.0% ถึง +2.0%) หลังในเดือน เม.ย.59 การส่งออกของไทยพลิกกลับมาหดตัวอีกครั้งที่ 8.0% (YoY) เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน (แย่กว่าที่นักวิเคราะห์ในผลสำรวจของรอยเตอร์คาดไว้ว่าอาจจะหดตัวที่ 1.25% YoY) ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่แย่ลงจากที่ขยายตัว 1.3% (YoY) ในเดือน มี.ค.59 โดยหากไม่นับรวมทองคำแล้ว การส่งออกของไทยจะติดลบลึกขึ้นเป็น 8.3% (YoY)
สาเหตุเนื่องจากความเปราะบางของเศรษฐกิจโลก อาจยังกดดันให้อุปสงค์จากประเทศคู่ค้าหลักมีความเสี่ยงที่จะฟื้นตัวล่าช้า
สำหรับทิศทางการส่งออกของไทยในระยะต่อไป มองว่า สัญญาณการฟื้นตัวที่จำกัดของอุปสงค์จากตลาดโลก จะยังคงทำให้แนวโน้มการส่งออกไทยในช่วงที่เหลือของปี 59 มีความเปราะบาง และมีจังหวะการขยายตัวที่ยังไม่เป็นภาพต่อเนื่อง ทำให้การฟื้นตัวของการส่งออกทั้งปียังเป็นโจทย์ที่ท้าทาย
อย่างไรก็ดี เป็นที่น่าสังเกตว่า ภาพรวมของราคาสินค้าส่งออกของไทยที่ทยอยขยับขึ้นในลักษณะเมื่อเทียบเดือนต่อเดือนที่ 0.1% 0.7% และ 0.5% (MoM) ตลอดช่วงเดือน ก.พ.-เม.ย.59 ที่ผ่านมานั้น เป็นภาพที่สอดคล้องกับทิศทางการฟื้นตัวของราคาน้ำมันในตลาดโลกที่เร่งตัวขึ้นทะลุระดับ 40 ดอลลาร์ฯ ต่อบาร์เรลในเดือน เม.ย.59 และยังปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่องมายืนใกล้ระดับ 50 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลในเดือน พ.ค.59
ดังนั้น ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จึงประเมินว่าหากทิศทางราคาน้ำมันตลาดโลกในช่วงที่เหลือของปี สามารถยืนระดับได้ดีขึ้น หรือประคองกรอบการเคลื่อนไหวไว้ได้ในช่วง 45-50 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลแล้ว ก็อาจช่วยทำให้แรงกดดันต่อสถานการณ์ราคาสินค้าส่งออกของไทยในภาพรวมคลายตัวลง โดยคาดว่า สินค้าส่งออกในกลุ่มที่มีราคาเชื่อมโยงกับราคาน้ำมันโลก อาทิ น้ำมันสำเร็จรูป เคมีภัณฑ์ ผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม เม็ดพลาสติก และยางพารา อาจกลับมามีระดับที่สูงขึ้นกว่าช่วงเดียวกันปีก่อนได้ (YoY) ตั้งแต่ในช่วงกลางไตรมาส 3/59 ซึ่งน่าจะช่วยหนุนความเป็นไปได้ที่จะเห็นการส่งออกไทยกลับมาขยายตัวได้อย่างต่อเนื่องภายในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้