ศาลปกครองกลาง มีคำสั่งไม่รับพิจารณาคำฟ้องบางข้อหาในคดีที่บริษัท วอยซ์ ทีวี จำกัด ยื่นฟ้อง คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม (กสทช.) และสำนักงาน กสทช. ในคดีประมูลคลื่นความถี่ทีวีดิจิตอล เนื่องจากไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย แผนแม่บท คำสั่งและคำโฆษณาประชาสัมพันธ์ และไม่แก้ไขเยียวให้แก่ผู้ชำระค่าใบอนุญาตทำให้ได้รับความเสียหายจากการลงทุนจำนวนมาก
ทั้งนี้ ตามคำฟ้องระบุว่า กสทช. ไม่มีแผนบริหารคลื่นความถี่ที่เหลือจากการเปลี่ยนผ่านระบบโทรทัสน์ ไม่ทำแผนแม่บท พร้อมกบแนวทางการดำเนินงานอย่าง้ป็นขั้นตอน และไม่มีการสำรวจข้อมูลตลาดอย่างถี่ด้วย แต่กลับรีบเร่งให้มีการประมูลคลื่นความถี่เพื่อให้มีการออกใบอนญาตทั้ง ๆ ที่ผู้รับใบอนุญาตยังไม่มีความพร้อม จึงก่อภาระให้กับผู้ให้บริการโครงข่ายโทรทัศน์ดิจิตอลภาคพื้นดินเป็นอย่างมาก ทำให้ผู้ประกอบการต้องลงทุนล่วงหน้าเป็นเงินจำนวนมาก โดยที่ผู้ชมยังไม่สามารถรับชมได้อย่างเต็มที่
ศาลมีคำสั่งรับคำฟ้องตามคำขอท้ายฟ้องในข้อ 1 ข้อ 4 และข้อ 5 ไว้พิจารณา คือ คำขอที่ 1 ให้ผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสองปฏิบัติหน้าที่ตามประกาศคณะกรรมการ กสทช.เรื่อง แผนแม่บทการบริหารคลื่นความถี่ (พ.ศ.2555) ประกาศ คำมั่นและคำโฆษณาประชาสัมพันธ์ โดยบังคับใช้หรือออกระเบียบบังคับใช้ให้มีการปฏิบัติอย่างรวดเร็ว
ส่วนคำขอที่ 4 ให้ผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสองร่วมกันหรือแทนกันชำระค่าเสียหายเป็นเงิน 1,312 ล้านบาทให้แก่ผู้ฟ้องคดี พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับแต่วันฟ้องเป้นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จ หากผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสองไม่ชำระค่าเสียหายดังกล่าว ขอให้มีคำสั่งออกมาตรการเยียวยาความเสียหายให้กับผู้ฟ้องคดี โดยลดการจ่ายเงินค่าประมูลเป็นสัดส่วน 9 ปี และขยายเวลาใบอนุญาตเป็นผู้ได้รับอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่และประกอบกิจการโทรทัศน์ของผู้ฟ้องคดีออกไปอีกเป็นระยะเวลา 9 ปี และคำขอที่ 5 ให้ผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสองชำระค่าฤชาธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายแทนผู้ฟ้องคดี
อย่างไรก็ตาม ศาลมีคำสั่งไม่รับคำฟ้องในข้อหาที่ 2 และ 3 ไว้พิจารณา กล่าวคือ คำขอที่ 2 ที่ผู้ฟ้องขอให้มีคำสั่งเพิกถอนประกาศคณะกรรมการ กสทช.เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการประมูลคลื่นความถี่เพื่อให้บริการโทรทัศน์ในระบบดิจิตอล ประเภทบริการธุรกิจระดับชาติ พ.ศ.2556 ในข้อที่ 10 การชำระค่าธรรมเนียมใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ ศาลเห็นว่าเป็นการยื่นฟ้องเมื่อพ้นกำหนดระยะเวลา และการฟ้องข้อหานี้ไม่เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวมหรือมีเหตุจำเป็นอื่น
ส่วนคำขอที่ 3 ที่ผู้ฟ้องขอให้เพิกถอนเงื่อนไขแนบท้ายใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่และประกอบกิจการโทรทัศน์เพื่อให้บริการโทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบดิจิตอล ประเภทบริการธุรกิจระดับชาติ โดยอนุญาตให้ผู้ฟ้องคดีขยายเวลาชำระเงินในงวดที่สามที่จะถึงกำหนดในวันที่ 23 พ.ค.59 ออกไปจนกว่าผู้ถูกฟ้องทั้งสองจะปฏิบัติตามแผนแม่บทที่ผู้ถูกฟ้องทั้งสองกำหนดเป็นที่เรียบร้อย ศาลเห็นว่า เป็นการขอให้ศาลใช้ดุลพินิจแก้ไขระยะเวลาการชำระค่าธรรมเนียมที่ กสทช.ได้กำหนดไว้เป็นเงื่อนไขท้ายใบอนุญาตดังกล่าว ซึ่งเป็นกรณีที่ศาลไม่อาจใช้ดุลพินิจแทนเจ้าหน้าที่ของรัฐ
"เมื่อศาลมีคำสั่งไม่รับคำฟ้องในข้อหาที่ 2 และข้อหาที่ 2 ของผู้ฟ้องไว้พิจารณา ศาลจึงไม่จำเป็นต้องพิจารณาหรือมีคำสั่งเกี่ยวกับคำขอให้ศาลกำหนดมาตรการหรือวิธีการคุ้มครองเพื่อบรรเทาทุกข์ชั่วคราวก่อนการพิพากษาตามคำขอของผู้ฟ้องคดีอีกต่อไป จึงมีคำสั่งไม่รับคำฟ้องในข้อหาที่ 2 และ 3 ของผู้ฟ้องไว้พิจารณา" คำสั่งศาลปกครองกลาง ระบุ