นายสมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันพรุ่งนี้ (31 พ.ค.) กระทรวงการคลังจะเสนอปรับปรุงมาตรการกระตุ้นให้เอกชนลงทุน จากเดิมที่กำหนดให้เป็นโครงการลงทุนที่เริ่มและแล้วเสร็จเฉพาะในปี 59 จึงจะสามารถนำมาหักลดหย่อนภาษี 2 เท่า โดยจะปรับเป็นการโครงการที่เริ่มลงทุนในปี 59 และไม่จำเป็นต้องเสร็จภายในปีเดียว เช่น ลงทุน 5 ปี ก็สามารถไปใช้สิทธิหักลดหย่อนภาษีเมื่อโครงการแล้วเสร็จก็ได้ เพื่อเป็นการเปิดโอกาสให้โครงการลงทุนขนาดใหญ่ได้ใช้สิทธิภาษีในโครงการดังกล่าวของรัฐบาลด้วย
“ได้รับข้อเสนอจากภาคเอกชนว่า การกำหนดให้เริ่มลงทุนและแล้วเสร็จภายใน 1 ปี ยังไม่เอื้อต่อการลงทุนขนาดใหญ่ จะได้ประโยชน์เฉพาะโครงการเล็กๆเท่านั้น"นายสมชัย กล่าว
นอกจากนี้ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี มอบหมายให้กระทรวงการคลังไปติดตามดูว่าเม็ดเงินลงทุนทั้งในส่วนของภาครัฐและรัฐวิสาหกิจ ในแต่ละไตรมาสมีจำนวนเพียงพอแล้วหรือไม่ หากยังไม่พอจำเป็นต้องมีมาตรการใดเข้าไปเสริม
รวมทั้งให้กระทรวงการคลังพิจารณาแนวทางและจัดเตรียมงบประมาณไว้ เพราะถือว่าเป็นปัจจัยสำคัญต่อการฟื้นตัวเศรษฐกิจในปีนี้ นอกเหนือจากภาคการท่องเที่ยวที่เริ่มฟื้นตัวชัดเจน รวมถึงการบริโภคภาคเอกชนที่เริ่มขยายตัว สะท้อนจากภาษีมูลค่าเพิ่มที่จัดเก็บได้เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ส่วนภาคส่งออกคาดว่าปีนี้ คงไม่ได้เป็นปัจจัยบวกต่อเศรษฐกิจมากนัก อีกทั้งได้กำชับให้ดูแลเรื่องการเบิกจ่ายงบลงทุนรัฐวิสาหกิจให้เป็นไปตามเป้าหมายในปีนี้ที่ 97%