นักบริหารเงิน เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ระดับ 35.63 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าจากช่วงเช้าที่เปิดตลาดที่ ระดับ 35.69/71 บาท/ดอลลาร์
ตลอดทั้งวันเงินบาทเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบแคบๆ โดยมาปรับแข็งค่าขึ้น 3-4 สตางค์ในช่วงบ่าย ซึ่งคืนนี้นักลงทุนรอดูการ ประกาศตัวเลขดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของประเทศเศรษฐกิจรายใหญ่ทั้ง จีน สหรัฐ และสหภาพยุโรป รวมทั้งรอ ดูรายงานภาวะเศรษฐกิจ Beige Book จากธนาคารกลางสหรัฐ (FED) ในคืนนี้ด้วย
นักบริหารเงิน คาดว่า พรุ่งนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 35.55 - 35.70 บาท/ดอลลาร์
- ปัจจัยสำคัญ
- ช่วงเย็นนี้เงินเยนอยู่ที่ระดับ 109.45 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 110.66/71 เยน/ดอลลาร์
- ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1139 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.1118/1119 ดอลลาร์/ยูโร
- ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,415.76 จุด ลดลง 8.52 จุด (-0.60%) โดยมีมูลค่าการซื้อขาย 42,858 ล้านบาท
- สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 453.96 ลบ.(SET+MAI)
- กระทรวงพาณิชย์ เผยดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไป (CPI) หรืออัตราเงินเฟ้อเดือน พ.ค.59 ขยายตัว 0.46% เมื่อ
ขณะที่ทั้งปียังคงประมาณการเงินเฟ้อไว้เท่าเดิมที่ 0-1% โดยประเมินว่าปัจจัยสนับสนุนยังมีผลต่อเนื่อง โดยเฉพาะจาก การใช้จ่ายและการลงทุนภาครัฐ ขณะที่สถานการณ์ Supply Disruption ในตลาดน้ำมันเริ่มคลี่คลาย อุปทานน้ำมันในตลาดโลกยัง อยู่ในระดับสูง และเงินบาทมีแนวโน้มอ่อนลงเล็กน้อยในช่วงครึ่งปีหลัง จากปัจจัยสำคัญคือการปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคาร กลางสหรัฐ (เฟด)
- นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ระบุว่า ขณะนี้ยังไม่จำเป็นต้องปรับเปลี่ยน
สำหรับอัตราเงินเฟ้อในเดือน พ.ค.59 ที่เพิ่มขึ้น 0.46% และเป็นการขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 หลังจากติดลบไป ปีกว่านั้น นายวิรไท มองว่าไม่ถือว่าเงินเฟ้อขยายตัวเร็วเกินไป เพราะเป็นไปตามคาดการณ์ของ ธปท.อยู่แล้ว
- สถาบันวิจัยเศรษฐกิจเยอรมนี รายงานว่า เศรษฐกิจของเยอรมนีอาจชะลอตัวลงในไตรมาสที่ 2 เนื่องจากปัจจัยขับ
- นายชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น กล่าวว่า จะเลื่อนการปรับขึ้นภาษีการบริโภคออกไปจนกว่าจะถึงเดือน ต.
- สำนักงานสถิติแห่งชาติอินโดนีเซีย เผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ปรับตัวลดลงสู่ระดับ 3.33% ในเดือนพ.ค.เมื่อ
- องค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD) มีมุมมองเชิงลบต่อเศรษฐกิจโลกมากขึ้น โดยเตือน
ว่า เศรษฐกิจจะเติบโตในระดับต่ำอย่างต่อเนื่อง หากรัฐบาลไม่ปรับเปลี่ยนทิศทางการใช้จ่ายและการค้า พร้อมระบุว่าในบรรดาความ
เสี่ยงที่มีต่อแนวโน้มเศรษฐกิจโลกนั้น รวมถึงกรณีที่อังกฤษจะถอนตัวจากการเป็นสมาชิกสหภาพยุโรป (EU) ด้วย