นางนพวรรณ เจิมหรรษา รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) กล่าวว่า ปัจจุบันธุรกิจอีคอมเมิร์ชในประเทศไทยเริ่มเห็นการขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างมาก โดยกลุ่มร้านค้าปลีกขนาดใหญ่ได้เปิดให้บริการซื้อขายสินค้าออนไลน์มากขึ้น อย่างเช่น กลุ่มเซ็นทรัล กลุ่มเทสโก้โลตัส บิ๊กซี และทรู ส่งผลให้ความนิยมในการซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ผ่านทางแอพพลิเคชั่นทางสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตขยายตัวตามไปด้วย ซึ่งจะเป็นการนำไปสู่แนวโน้มสังคม "โมบายคอมเมิร์ซ" ที่ทุกคนสามารถซื้อขายสินค้าบนโซเชียลมีเดียได้ ทำให้โอกาสในการซื้อขายสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์เพิ่มสูงขึ้นในอนาคต
"แนวโน้มการใช้จ่ายออนไลน์ในประเทศไทยมีทิศทางที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นผลมาจากการเติบโตของสมาร์ทโฟนและแท๊บเล็ต ประกอบการพัฒนาโครงข่าย 3G และ 4G ทำให้เกิดการพัฒนาช่องทางการชำระเงินและการรับส่งสินค้าที่สะดวกมากขึ้น และการผลักดันของรัฐบาลในโครงการ National e-payment โดยธนาคารคาดการณ์การซื้อขายสินค้าออนไลน์ของประเทศไทยในปี 59 จะมีมูลค่าสูงถึง 2.4 แสนล้านบาท หรือเติบโต 20% จากปีก่อนที่มีมูลค่า 2 แสนล้านบาท"นางนพวรรณ กล่าว
สำหรับในปี 59 ธนาคารตั้งเป้าการใช้จ่ายออนไลน์ผ่านบัตรเครดิตเติบโต 25% หรือคิดเป็นมูลค่า 3.4 หมื่นล้านบาท จากปีก่อนที่ 2.7 หมื่นล้านบาท โดยมีส่วนแบ่งตลาดอยู่ที่ 31% โดยหมวดหลักที่นิยมใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตกสิกรไทย ได้แก่ สายการบิน องค์กรรัฐ เช่น การจ่ายภาษี การท่องเที่ยว ช้อปปิ้ง และประกัน ปัจจุบันสัดส่วนบัตรเครดิตของธนาคารประกอบด้วย บัตรทองและคลาสสิคอยู่ที่ 20% บัตรแพลทตินัม 40% และบัตรที่สูงกว่า แพลทินัม อย่างเช่น วิสดอม 40% โดยปัจจุบันบัตรเครดิตของธนาคารอยู่ที่ 3.7 ล้านใบ โดยสิ้นปีนี้ธนาคารต้องการเพิ่มบัตรเครดิตให้มาอยู่ที่ 3.8-3.9 ล้านใบ สำหรับค่าธรรมเนียมธุรกิจบัตรเครดิตปีนี้ตั้งเป้าเติบโต 10%
ด้านบัตรเดบิตกสิกรไทยผ่านออนไลน์นั้นธนาคารได้ตั้งเป้าหมายลูกค้าใหม่เพิ่มขึ้น 20% และมูลค่าการใช้จ่ายเพิ่มขึ้น 30% จากปีก่อนที่ 5 พันล้านบาท โดยหมวดการใช้จ่ายหลัก คือ การท่องเที่ยว การดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่น การซื้อโฆษณาออนไลน์
ส่วนธุรกิจดิจิทัลแบงก์กิ้งโทรศัพท์มือถือและอินเตอร์เน็ต ตั้งเป้าเพิ่มฐานลูกค้าเพิ่มอีก 3.4 ล้านราย จากฐานลูกค้าในปัจจุบัน 9 ล้านราย โดยในปีก่อนมีมูลค่าธุรกรรมคิดเป็น 3.9 ล้านล้านบาท ซึ่งธนาคารมีกลยุทธ์สำคัญ คือ การออกฟีเจอร์การใช้งานใหม่ๆให้ลูกค้าปรับได้ตามความต่องการของแต่ละคน และสามารถทำธุรกรรมทางการเงินที่ต้องการบนสมาร์ทโฟน และการมอบสิทธิพิเศษต่างๆให้กับลูกค้ามากมาย
ด้านระบบการชำระเงินออนไลน์ K-Payment Gateway มีปริมาณธุรกรรมเฉลี่ย 8 หมื่นล้านบาท/ปี คิดเป็น 11 ล้านรายการ และตั้งเป้าหมายเติบโตอีก 23% ในปีนี้ ทั้งนี้ลูกค้าธุรกิจหันมาใช้บริการ K-Pament Gate mway ของธนาคารมากขึ้น โดยธนาคารเน้นการพัฒนาเครื่องมือที่สนับสนุนระบบชำระเงินบนดิจิทัลฟอร์มอย่างต่อเนื่อง เพื่องสนับสนุนผู้ประกอบการอีคอมเมิร์ซให้มีช่องทางการรับชำระเงินที่หลากหลาย สะดวกสบาย และมั่นใจถึงประสิทธิภาพ
นางนพวรรณ กล่าวว่าในช่วง 5 เดือนที่ผ่านมา (ม.ค.-พ.ค. 59) ยอดการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตของธนาคารเติบโต 8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อนที่เติบโต 10% โดยยอดใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตถือว่าปรับตัวลดลงตามภาวะเศรษฐกิจที่ถดถอยโดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าบัตรเครดิตที่ต่ำกว่ากลุ่มแพลทตินัม
"จากภาวะเศรษฐกิจที่ถดถอย ลูกค้าระดับกลางและล่างมีการชะลอตัวด้านการใช้จ่ายอย่างเห็นได้ชัด ขณะที่ลูกค้าระดับบนไม่ได้รับผลกระทบแต่อย่างใด โดยปัจจุบันยอดการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตอยู่ที่ 1.8 หมื่นบาทต่อบัตรต่อคนเดือน ขณะที่ยอดการอนุมัติบัตรก็ลดลงจากเมื่อก่อนอนุมัติเกิน 50% เดี๋ยวนี้ไม่ถึง 50% โดยปีนี้ธนาคารไม่ได้เน้นเพิ่มจำนวนบัตร แต่เน้นกระตุ้นการใช้จ่ายผ่านบัตร"นางนพวรรณ กล่าว