BOI นำผู้ประกอบการไทยไปดูลู่ทางลงทุนในกัมพูชาและเวียดนาม 6-10 มิ.ย.

ข่าวเศรษฐกิจ Friday June 3, 2016 13:57 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

น.ส.ชลลดา อารีรัชชกุล ผู้อำนวยการกองส่งเสริมการลงทุนไทยในต่างประเทศ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) เปิดเผยว่า ช่วงวันที่ 6-10 มิ.ย.นี้ BOI จะนำคณะผู้ประกอบการที่เข้าร่วมอบรมในหลักสูตร “สร้างนักลงทุนไทยในต่างประเทศ" รุ่น 10 และ 11 รวม 57 ราย ซึ่งเป็นผู้ประกอบการจากหลากหลายอุตสาหกรรม อาทิ กลุ่มอุตสาหกรรมอาหาร เกษตร เกษตรแปรรูป ชิ้นส่วนรถยนต์ เครื่องจักรกลการเกษตร สารเคมี พลาสติก บรรจุภัณฑ์ วัสดุก่อสร้าง เฟอร์นิเจอร์ เป็นต้น เดินทางไปศึกษาลู่ทางการลงทุนที่ราชอาณาจักรกัมพูชา และสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม

โดยเส้นทางการศึกษาลู่ทางลงทุนครั้งนี้จะเน้นศึกษาโอกาสของการลงทุนในพื้นที่บริเวณเส้นทางเชื่อมต่อระหว่าง 3 ประเทศ คือ ไทย-กัมพูชา-เวียดนาม โดยเป็นการเดินทางสำรวจเส้นทางคมนาคมหลักที่ใช้ในการขนส่งสินค้า เริ่มจากกรุงเทพฯ –สระแก้ว-ปอยเปต-บันเตียเมียนเจย-ศรีโสภณ-พระตะบอง-พนมเปญ-สวายเรียง และโฮจิมินห์ ระยะทางรวมกว่า 950 กิโลเมตร ซึ่งตลอดเส้นทางจะประกอบด้วยกิจกรรมต่างๆ ที่จะทำให้ผู้ประกอบการไทยได้ศึกษาโอกาสและลู่ทางการลงทุนได้อย่างแท้จริง

ทั้งในรูปแบบของการพบหน่วยงานภาครัฐและเอกชนที่สำคัญของทั้ง 2 ประเทศ อาทิ การเข้าพบผู้ว่าจังหวัดและหอการค้าพระตะบองของกัมพูชา ซึ่งจะเป็นการสร้างความสัมพันธ์อันดีและสร้างโอกาสของการขยายเครือข่ายเพื่อการลงทุนร่วมกันในอนาคต, การเยี่ยมชมกิจการของนักลงทุนไทยที่ได้ผ่านการอบรมตามหลักสูตรสร้างนักลงทุนไทยในต่างประเทศมาแล้ว และปัจจุบันได้เข้าไปดำเนินกิจการอุตสาหกรรมสิ่งทออยู่ภายในนิคมอุตสาหกรรมศรีโสภณของกัมพูชา ซึ่งนับว่าเป็นกิจการหนึ่งที่ประสบความสำเร็จ นอกจากนี้ยังมีโอกาสเข้าเยี่ยมชมโรงงานเบทาโกรที่ตั้งอยู่ในเขตนิคมอุตสาหกรรมพนมเปญ ที่มีชื่อเสียงและมีมาตรฐานของกัมพูชา

นอกจากนี้ BOI ยังได้จัดให้มีกิจกรรมการสัมมนาเพื่อให้ข้อมูลเกี่ยวกับโอกาสและลู่ทางการลงทุนซึ่งในส่วนของกัมพูชา โดยได้รับเกียรติจากเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงพนมเปญ เป็นผู้กล่าวเปิดงาน และได้เชิญวิทยากรจากหน่วยงานส่งเสริมการลงทุน และหอการค้ากัมพูชา รวมถึงบริษัทที่ปรึกษาของบีโอไอในประเทศกัมพูชา เพื่อร่วมให้ข้อมูลทางด้านกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการลงทุน การแลกเปลี่ยนประสบการณ์จากสถาบันการเงินไทยที่ได้ไปตั้งสาขาอยู่ในพนมเปญ ทั้งธนาคารกรุงเทพ และธนาคารไทยพาณิชย์ เป็นต้น

ส่วนการจัดสัมมนาที่สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามนั้น กงสุลใหญ่ ณ นครโฮจิมินห์ จะร่วมให้ข้อมูลเกี่ยวกับโอกาสและลู่ทางการลงทุน บริษัทที่ปรึกษาของบีโอไอในประเทศเวียดนามให้ข้อมูลเกี่ยวกับโอกาสและลู่ทางการลงทุนเชิงลึก ขณะเดียวกันยังมีผู้แทนของนิคมอุตสาหกรรมอมตะ (เวียดนาม) ร่วมให้ข้อมูลที่น่าสนใจจากมุมมองของนักลงทุนตัวจริงอีกด้วย

"กิจกรรมครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญในโครงการอบรมสร้างนักลงทุนไทยในต่างประเทศ ซึ่งนอกจากจะมีกิจกรรม อบรมให้ความรู้เชิงลึกที่มีประโยชน์ในทุกด้านแก่ผู้ประกอบการไทยที่เข้ารับการอบรมแล้ว ยังจัดให้มีกิจกรรมการเดินทางเข้าไปศึกษาโอกาสและศักยภาพ รวมถึงศักยภาพของตลาดในต่างประเทศ เพื่อให้ได้เห็นลู่ทางและโอกาสตลาดในพื้นที่จริงสำหรับใช้ประกอบการตัดสินใจ โดยมั่นใจว่าการที่ผู้ประกอบการเข้าไปลงทุนในต่างประเทศนั้นในที่สุดแล้วจะช่วยนำประโยชน์กลับมาสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจให้ประเทศไทยอย่างยั่งยืน" น.ส.ชลลดา กล่าว

สำหรับกัมพูชามีศักยภาพทางด้านการรองรับลงทุนในหลายด้าน โดยเฉพาะบริเวณพระตะบอง ศรีโสภณ รอบโตนเลสาบ ที่เป็นพื้นที่กสิกรรมขนาดใหญ่ และมีพื้นที่เพาะปลูกที่อุดมสมบูรณ์เหมาะแก่การเข้าไปทากิจกรรมเพาะปลูก ประกอบธุรกิจเกษตรและอาหารแปรรูป ขณะที่กรุงกรุงพนมเปญ มีประชากรอาศัยอยู่หนาแน่น ซึ่งทำให้มีความต้องการในธุรกิจภาคบริการสูง จึงเหมาะที่จะเข้าไปประกอบกิจการด้านบริการ เช่น ร้านอาหาร ธุรกิจสปา ธุรกิจโรงแรม ธุรกิจก่อสร้าง รวมไปถึงธุรกิจซ่อมบำรุงรถยนต์/จักรยานยนต์ เป็นต้น

ขณะที่สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามในปัจจุบันบริเวณโดยรอบนครโฮจิมินห์ มีการพัฒนาของโครงสร้างพื้นฐานที่ดี อยู่ใกล้แหล่งวัตถุดิบในการผลิต และมีแรงงานอาศัยอยู่ค่อนข้างมาก จึงเหมาะแก่การเข้าไปลงทุนจัดตั้งโรงงานผลิตเช่นกัน ขณะที่ในตัวเมืองสำคัญๆ และเกือบทุกพื้นที่ของประเทศสามารถเข้าไปลงทุนในอุตสาหกรรมอาหารแปรรูป รวมถึงการเข้าไปลงทุนในธุรกิจบริการ เช่น ร้านอาหาร โรงแรมและที่พัก การเงินและประกันภัย ธุรกิจก่อสร้าง ตลอดจนบริการโลจิสติกส์


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ