อัคราฯ ยื่นหนังสืออุทธรณ์คำสั่งปิดเหมือง แจงยังเหลืออายุสัมปทานอีกหลายปี

ข่าวเศรษฐกิจ Friday June 3, 2016 18:10 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายเชิดศักดิ์ อรรถอารุณ ผู้จัดการฝ่ายประสานกิจการภายนอก บมจ.อัครา รีซอร์สเซส กล่าวว่า บริษัทฯ ได้ส่งหนังสือขออุทธรณ์โต้แย้งคำสั่งต่ออายุใบอนุญาตประกอบโลหกรรมที่ 1/2551 ของบริษัทตามหนังสือของกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ ที่ อก 0512/1853 ฉบับลงวันที่ 12 พฤษภาคม 2559 ถึงอธิบดีกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

อนึ่ง ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม 2559 ที่ผ่านมา มีมติยุติการอนุญาตอาชญาบัตรพิเศษสำรวจแร่ทองคำและประทานบัตรทำเหมืองแร่ทองคำ รวมถึงคำขอต่ออายุประทานบัตรทั่วประเทศ ในส่วนของ อัครา รีซอร์สเซส มีมติเห็นควรให้ต่ออายุใบอนุญาตประกอบโลหกรรมไปจนถึงสิ้นปี 2559 หลังจากนั้นให้ทางบริษัทปิดเหมืองและฟื้นฟูพื้นที่ตามแผนที่วางไว้ โดยให้เหตุผลว่าเป็นการลดความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในพื้นที่จากกรณีมีกลุ่มประชาชนที่อ้างว่าได้รับผลกระทบด้านสุขภาพจากการประกอบกิจการเหมืองฯ

ทั้งนี้ ทางบริษัทฯ ซึ่งเป็นผู้ดำเนินงานเหมืองแร่ทองคำชาตรีเห็นว่าคำสั่งดังกล่าวไม่เป็นธรรมต่อบริษัทฯ และพนักงาน จึงวิงวอนให้ภาครัฐหาข้อสรุปด้านสุขภาพและสิ่งแวดล้อมให้กระจ่างตามหลักการทางวิทยาศาสตร์ เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย และคลายความกังวลใจที่เกิดขึ้นในชุมชน

การยื่นหนังสือขออุทธรณ์ในครั้งนี้ เพื่อเป็นการยืนยันว่าบริษัทฯ ได้ประกอบกิจการเหมืองแร่ทองคำชาตรีตามมาตรฐานสากล ด้วยความรับผิดชอบต่อชีวิตและสิ่งแวดล้อมเสมอมาตั้งแต่เริ่มดำเนินการ ซึ่งการประกอบกิจการนั้นเป็นไปตามกฏหมาย และปฏิบัติตามมาตรการ EHIA อย่างเคร่งครัดทุกประการ

“เนื่องจากบริษัทฯ ยังคงมีประทานบัตรที่ได้รับอนุญาตอยู่อีก 13 ฉบับ ซึ่งมีอายุประทานบัตรไล่เลี่ยกันจนถึงปี 2571 จึงทำให้ไม่สามารถดำเนินการนำสินแร่ที่มีอยู่ขึ้นมาได้ทันภายในระยะเวลาเพียงสิ้นปี 2559 นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีกองสินแร่ที่ต้องดำเนินการในโรงประกอบโลหกรรมนี้ต่อไปอีกจำนวนมาก และต้องใช้เวลาหลายปีในการดำเนินการดังกล่าวให้แล้วเสร็จ ทั้งนี้ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ตั้งแต่ เริ่มดำเนินกิจการ บริษัทฯ ได้พิสูจน์ให้เห็นมาตลอดว่ากิจการเหมืองแร่ทองคำชาตรีนั้น ไม่ได้ก่อให้เกิดผลกระทบต่อทั้งสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของประชาชนที่อาศัยอยู่ในชุมชนโดยรอบเหมืองแร่ทองคำชาตรีแต่อย่างใด นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีส่วนช่วยสร้างให้เกิดการเติบโตทางเศรษฐกิจแก่ประเทศไทยทั้งในระดับท้องถิ่นและต่อประเทศไทยโดยรวม"

อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ มีการตรวจวัดทางสิ่งแวดล้อมอย่างละเอียด ได้จัดให้มีการตรวจวัดฝุ่น เสียง น้ำ แรงสั่นสะเทือน และก๊าซจากปล่องในโรงงานอุตสาหกรรม ตลอดจนตรวจสุขภาพประชาชนที่อาศัยโดยรอบทุกๆ 3 เดือนตามหลักวิชาการ และข้อมูลที่เป็นวิทยาศาสตร์สามารถตรวจสอบได้ในทุกขั้นตอน จากหน่วยงานที่กำกับดูแลโดยตรง คือกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ (กพร) และหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องในทุกๆ 3 และ 6 เดือนอยู่สม่ำเสมอ จึงไม่ใช่สาเหตุที่ก่อให้เกิดผลกระทบในด้านต่างๆ ทั้งทางด้านสิ่งแวดล้อม และสุขภาพตามที่เกิดเป็นข้อกล่าวหา ซึ่งบริษัทฯ ได้ดำนินการให้ข้อมูล และหลักฐานทางวิชาการต่างๆ แก่หน่วยงานที่กำกับดูแลอยู่เป็นระยะ และพร้อมให้ข้อมูลดังกล่าวแก่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและสาธารณะชน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ