นายภักดี มะนะเวศ รองเลขาธิการคณกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) สายงานกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ กล่าวว่า ที่ประชุมคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์(กสท.) วันนี้ ยังไม่มีข้อสรุปกรณีรองนายกรัฐมนตรีได้ทำหนังสือสอบถามมายัง กสทช.ตามที่ได้มีข้อคิดเห็นเกี่ยวกับการจัดให้มีช่องโทรทัศน์ของประชารัฐ โดยให้มีแนวทางพิจารณาการอนุญาตให้ช่องสาธารณะเพื่อประชาสัมพันธ์การขับเคลื่อนการบริหารราชการแผ่นดินโดยใช้กลไกประชารัฐ เพื่อเป็นการต่อยอดและขยายผลการดำเนินการลงสู่ระดับพื้นที่ให้มากขึ้น
ทั้งนี้ กสท.ได้มีการนำเรื่องดังกล่าวมาพูดคุยกัน แต่ยังไม่มีข้อสรุปเป็นมติว่าจะจัดตั้งช่องประชารัฐหรือไม่ โดยจะได้พิจารณาว่าจะมีช่องทางใดบ้างที่จะสนับสนุนการสื่อสารนโยบายของภาครัฐไปยังประชาชน
"บอร์ดยังไม่มีข้อสรุป เพราะต้องพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนจะทำข้อสรุปส่งกลับไปชี้แจงสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ภายใน 30 วัน ขอย้ำว่าบอร์ดกสท.มีนโยบายสนับสนุนโครงการที่ภาครัฐต้องกรสื่อสารไปยังประชาชนโดยผ่านทีวีสาธารณะ" รองเลขาธิการ กสทช.กล่าว
ส่วนกรณีโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย (ทรท.) ได้ทำหนังสือแจ้ง กสท. เรื่องขอยกเลิกประเด็นการเชื่อมต่อสัญญาณการอนุญาตให้สถานีโทรทัศน์ที่ไม่ใช่สมาชิก ทรท. ร่วมถ่ายทอดสดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก เนื่องจากหลีกเลี่ยงปัญหาด้านลิขสิทธิ์นั้น นายภักดี กล่าวว่า ระหว่างนี้ได้มีการหารือระหว่าง ทรท.กับกองทุนวิจัยและพัฒนากิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมเพื่อประโยชน์สาธารณะ (กองทุน กทปส.) ซึ่งก่อนหน้านี้ ทรท.ได้ยื่นของบสนับสนุนลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดกีฬาโอลิมปิก เพื่อให้ทีวีดิจิตอลได้ถ่ายทอดได้ ขณะที่ ทรท.ยังไม่ได้ขอเพิกถอนการของบดังกล่าว คาดว่าจะได้ข้อสรุปในปลายเดือน มิ.ย. หรืออย่างช้าต้นเดือนก.ค.
นอกจากนี้ สำนักงาน กสทช.ได้ทำหนังสือทวงถามการชำระเงินค่าใบอนุญาตทีวีดิจิตอลในงวด 3 ของ 5 ช่อง คือ ช่องไทยรัฐทีวี , ช่องพีพีทีวี ,ช่องจีเอ็มเอ็ม25, ช่องวัน31 และช่องไบรท์ทีวี โดยชี้แจงว่าไม่สามารถเลื่อนการจ่ายค่าใบอนุญาตงวดที่ 3 ได้ พร้อมเรียกเก็บดอกเบี้ย ในอัตรา 7.5%ต่อปีนับจากวันที่ไม่มาชำระตามวันที่ครบกำหนด คือ 23 พ.ค. ที่ผ่านมา
นายภักดี กล่าวว่า ที่ประชุม กสท.มีมติเห็นควรส่งหนังสือที่ธนาคารกรุงเทพสอบถามจำนวนเงินที่ต้องจ่ายแทนบริษัทไทยทีวีจำกัด จำนวน 288.47 ล้านบาท และให้ชำระเมื่อไร เพื่อที่ธนาคารจะได้ชำระได้ถูกต้องนั้น ให้สำนักงาน กสทช.ส่งเรื่องให้อนุกรรมการด้านกฎหมายให้ความเห็นก่อนจึงจะนำเข้าที่ประชุม กสท.พิจารณา