กกร. ยังคงเป้า GDP ปีนี้โต 3-3.5% ขอรอดูตัวเลขส่งออกก่อน หลังเม.ย.กลับมาหดตัว

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday June 7, 2016 16:36 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายเจน นำชัยศิริ ประธานสภาอุตสาหกรรมกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ในฐานะประธานคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) เปิดเผยว่า ในปี 59 กกร. ยังคงประมาณการเศรษฐกิจไทย ที่ 3.0-3.5% แต่จะติดตามสถานการณ์การส่งออก และความคืบหน้าของการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ของภาครัฐ เพื่อประเมินกรอบตัวเลขคาดการณ์ทั้งจีดีพีและการส่งออกอีกครั้งในอนาคต

ทั้งนี้ กกร.เห็นว่า ภาวะเศรษฐกิจไทยโดยรวมในเดือนเม.ย.59 ยังฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป โดยมีแรงส่งหลักมาจากปัจจัยเดิม คือ ภาคบริการหรือการท่องเที่ยว และการเบิกจ่ายงบประมาณของรัฐบาล อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมมีความกังวลต่อตัวเลขการส่งออกที่กลับมาหดตัวอีกครั้ง และส่งผลให้การขยายตัวของ การผลิตภาคอุตสาหกรรมยังอยู่ในระดับที่ค่อนข้างต่ำ นอกจากนี้ การบริโภคในประเทศ แม้จะเริ่มมีสัญญาณที่ดีบ้างที่ยอดขายรถยนต์พลิกกลับมาเป็นบวกได้ แต่ก็ยังคงถูกกดดันจากรายได้เกษตรกรที่ยังอ่อนแอและการระมัดระวังการใช้จ่ายของครัวเรือน ด้านการลงทุนภาคเอกชนก็ยังคงไม่ฟื้นตัวอย่างชัดเจน สะท้อนได้จากความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจที่ยังคงปรับลดลงจากเดือนก่อน

สำหรับแนวโน้มเศรษฐกิจไทยในไตรมาส 2/59 คาดว่าน่าจะใกล้เคียงกับในไตรมาสแรก อย่างไรก็ตาม ยังคงต้องติดตามภาวะเศรษฐกิจโลกโดยเฉพาะเศรษฐกิจจีนและอาเซียน ซึ่งจะมีผลต่อการฟื้นตัวของการส่งออก รวมทั้งการลงประชามติของสหราชอาณาจักรเรื่องการเป็นสมาชิกของสหภาพยุโรป ตลอดจนท่าทีของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) อันจะมีผลต่อความเคลื่อนไหวของอัตราแลกเปลี่ยนและรายได้ของผู้ส่งออก หลังจากที่ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ ในเดือนพฤษภาคมออกมาต่ำกว่าคาดอย่างมาก ซึ่งส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์ฯ ดิ่งลง และตลาด ลดการคาดการณ์ถึงความเป็นไปได้ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย Fed Funds ลง นอกจากนี้ กกร.สนับสนุนการจัดประชุมหารือ เรื่องการปรับปรุงประสิทธิภาพการบริการภาครัฐ (EoDB) กับการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยในวันที่ 13 มิ.ย.59 โดยมีพล.ประยุทธ์ จันทรโอชา นายกรัฐมนตรีเป็นประธานการประชุมเพื่อติดตามความคืบหน้า 11 เรื่อง ได้แก่ การเริ่มต้นธุรกิจการขออนุญาตก่อสร้างและผังเมือง การขอใช้ไฟฟ้า การจดทะเบียนทรัพย์สินการได้รับสินเชื่อ การคุ้มครองผู้ลงทุนรายย่อย การชำระภาษี การค้าระหว่างประเทศ การบังคับให้เป็นไปตามข้อตกลง การแก้ไขปัญหาล้มละลาย และอื่นๆ (เช่น อย. EIA ท่องเที่ยว และ work permit เป็นต้น ซึ่งคาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมรับฟังกว่า 500 คน

พร้อมเรียกร้อง รัฐบาลเร่งแก้ปัญหาในกรณีที่ศาลฎีกาได้ตัดสินคดีภาษีอากรกรณีที่บริษัทได้รับส่งเสริมการลงทุนหลายโครงการว่าวิธีการคำนวณภาษี ของกรมสรรพากรที่ให้เอาผลกำไรขาดทุนของทุกโครงการในปีภาษีเดียวกันมารวมกัน (net บัตร) เป็นวิธีที่ถูกต้อง แต่ผู้ประกอบการที่ได้รับส่งเสริมการลงทุนส่วนใหญ่คำนวณภาษีตามความเห็นของ BOI ซึ่งได้มีการหารือกับคณะกรรมการกฤษฎีกาแล้ว แต่ไม่ตรงกับความเห็นของกรมสรรพากร ปัญหาความเห็นที่แตกต่างกันระหว่าง BOI กับกรมสรรพากรทำให้ผู้ลงทุนทั้งไทยและต่างชาติเกิดความไม่เชื่อมั่นในนโยบายการส่งเสริมการลงทุนของรัฐบาล


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ