นายประภาส ตันพิบูลย์ศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่การลงทุน บลจ.ทาลิส เปิดเผยว่า แนวโน้มอัตราดอกเบี้ยภายในประเทศคาดว่าจะทรงตัวอยู่ในระดับต่ำไปจนถึงกลางปี 60 เนื่องจากภาพรวมเศรษฐกิจไทย และเศรษฐกิจโลกยังไม่ดีเท่าที่ควร และคาดว่าในช่วงครึ่งปีหลังของปีนี้มีความเป็นไปได้ที่ธนาคารพาณิชย์จะทยอยปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก โดยเฉพาะดอกเบี้ยเงินฝากออมทรัพย์ทั่วไป แต่คงไม่ถึงขั้นลดจากเดิม 0.125% จนเหลือ 0% แน่นอน เพราะจะมีกระแสต่อต้านจากประชาชนตามที่ได้เห็นมาแล้วในช่วงก่อนหน้า
"ดอกเบี้ย 0% สำหรับประเทศไทย คงเกิดขึ้นได้ยาก เพราะสุดท้ายจะมีกระแสต่อต้านจากประชาชนที่ไม่ยอมรับในเรื่องนี้ได้ ดังนั้นอัตราดอกเบี้ยจะยังคงยืนอยู่ในระดับที่ต่ำถึงกลางปีหน้าก่อนทยอยปรับขึ้น หลังเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัว"นายประภาส กล่าว
นายประภาส กล่าวว่า ด้วยสภาพเศรษฐกิจที่ยังเติบโตได้ไม่ดีเท่าที่ควร ทำให้การปล่อยสินเชื่อธนาคารพาณิชย์ไม่เติบโตตามเป้าหมาย ขณะที่เงินฝากซึ่งถือเป็นรายจ่ายของธนาคารยังมีอัตราการเติบโตที่สูงกว่า เป็นแรงกดดันให้ต้องประกาศลดอัตราดอกเบี้ยเพื่อลดต้นทุน และรักษาอัตรากำไรของธนาคารเอาไว้ ส่วนการเพิ่มค่าธรรมเนียมต่างๆ มองว่าคงทำได้ยาก เนื่องจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) มีการดูแลเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด
“แนวโน้มดอกเบี้ยที่ทรงตัวอยู่ในระดับต่ำ ทำให้ผู้ฝากเงินบางส่วนเริ่มปรับพฤติกรรมการลงทุน เพื่อหาผลตอบแทนที่สูงกว่าการฝากเงิน เช่น ซื้อพันธบัตรรัฐบาลในระยะยาวมากขึ้น รวมทั้งเริ่มมีการนำเงินไปลงทุนในหุ้นกู้เอกชน และส่วนหนึ่งก็โยกเงินเข้ามาลงทุนกองทุนรวม เนื่องจากให้ผลตอบแทนที่สูงกว่าเงินฝาก และความเสี่ยงไม่มากนัก"นายประภาส กล่าว
ขณะที่ดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับต่ำ ส่งผลให้ลูกค้าที่เป็นนักลงทุนที่มีเงินมาก เริ่มมีการโยกเงินฝากออกจากธนาคารพาณิชย์ เข้ามาลงทุนผ่านกองทุนส่วนบุคคล (Private Fund) มากขึ้น ซึ่งในช่วงที่ผ่านมามีลูกค้าหลายรายสนใจเข้ามาสอบถามข้อมูล และเข้ามาปรึกษาด้านการลงทุนกับ บลจ.ทาลิส เป็นจำนวนมาก และบริษัทฯมีทีมงานที่พร้อมให้คำแนะนำปรึกษาการลงทุน ที่สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้า และความเสี่ยงที่ลูกค้าสามารถรับได้ ซึ่งรูปแบบการลงทุนมีทั้งในส่วนของกองทุนหุ้น กองทุนตราสารหนี้ และกองทุนผสม เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่สามารถรับความเสี่ยงได้แตกต่างกัน