นายสมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง ได้มอบหมายให้เร่งหาข้อสรุปแนวทางการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของน้ำตาลสูง หลังจากผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมน้ำตาลได้เข้าพบ เพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับโครงสร้างการผลิตเครื่องดื่มที่มีน้ำตาล โดย รมว.คลังกำหนดจะต้องหาข้อสรุปให้ชัดเจนภายใน 1 เดือนว่ามีความจำเป็นที่จะต้องจัดเก็บภาษีดังกล่าวหรือไม่
“ก่อนหน้านี้ผู้ประกอบการมาชี้แจงว่ากระทรวงการคลังอาจได้ข้อมูลไม่รอบด้าน หรือได้เพียงด้านเดียว ซึ่งขณะนี้กระทรวงการคลังยังไม่ได้บอกว่าจะจัดเก็บหรือไม่ หากได้ข้อมูลครบถ้วนแล้วพบว่าไม่มีความจำเป็นต้องจัดเก็บ ก็จะต้องมีเหตุผลเพื่อไปตอบคำถามคณะสภาปฏิรูปฯ ว่าจะทำอย่างไรให้สุขภาพของประชาชนดีขึ้น โดยมันมีวิธีการอื่นที่จะสามารถดำเนินการได้ เช่น การควบคุมห้ามใช้น้ำตาลในเครื่องดื่มมากกว่า 2 ช้อนชา เป็นต้น ขณะเดียวกันทำไมเราต้องเก็บแค่เครื่องดื่ม ในเมื่อมีน้ำตาลที่ใส่ในชนิดอื่นด้วย เช่น น้ำตาลที่ใส่ในนม 13-14% ในอาหาร 20-30% ทำไมไม่จัดเก็บด้วย มันต้องมีเหตุและผล”นายสมชัย กล่าว
อย่างไรก็ตาม จากการหารือกับผู้ประกอบการ หากจะให้มีการปรับปรุงด้วยการลดการใช้น้ำตาลในเครื่องดื่มก็คงจะต้องให้เวลาผู้ประกอบการในการปรับปรุงสูตรด้วย
ด้านนายสมชาย พูลสวัสดิ์ อธิบดีกรมสรรพสามิต เปิดเผยว่า ขณะนี้ยังไม่มีความคืบหน้าเพิ่มเติมเกี่ยวกับแนวทางการจัดเก็บภาษีเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลสูง เนื่องจากยังต้องรอความชัดเจนจาปลัดกระทรวงการคลัง และสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบเรื่องนี้โดยตรง
ทั้งนี้ ในส่วนของกรมสรรพสามิตเอง ที่ผ่านมาก็ได้มีการส่งรายละเอียดที่เกี่ยวข้องให้กระทรวงการคลังพิจารณาแล้ว แต่ยังไม่ได้ข้อสรุปที่ตกผลึก เพราะต้องมีการหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอีกมาก
"เรื่องนี้ สศค. เป็นเจ้าภาพดูแล และตอนนี้ก็ยังรอว่าปลัดกระทรวงการคลังจะเรียกหารือผู้ที่เกี่ยวข้องเมื่อใด แต่ที่ผ่านมากรมสรรพสามิตได้หารือกับผู้ประกอบการ และภาคเอกชน เช่น สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) บ้าง ก็มีการให้ข้อเสนอแนะเกี่ยวกับแนวทางการดำเนินการเรื่องดังกล่าว แต่ยืนยันว่าขณะนี้ยังไม่ได้ข้อสรุป" นายสมชาย กล่าว
อนึ่ง ก่อนหน้านี้ รมว.คลัง ได้กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งหารือเพื่อหาข้อสรุปเกี่ยวกับแนวทางการจัดเก็บภาษีสินค้าเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลสูงให้ได้ภายใน 1 เดือน คาดว่าจะเป็นภายในสิ้นเดือนมิ.ย.นี้