"สมคิด"ปลื้มเวิลด์แบงก์ปรับเพิ่ม GDP ไทยปีนี้ แม้ศก.โลกทรุด ยันไทยไม่ประมาท

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday June 9, 2016 14:31 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ธนาคารโลก (World Bank) รายงานภาวะเศรษฐกิจโลกรอบครึ่งปี และปรับผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ของไทยเพิ่มขึ้นเป็น 2.5% จากเดิมที่คาดไว้ที่ 2% ว่า เป็นเรื่องน่าดีใจที่ธนาคารโลกได้ปรับจีดีพีของไทยในปีนี้เพิ่มขึ้น ซึ่งนับเป็นเพียงประเทศเดียวในแถบเอเชียตะวันออก และแปซิฟิก ที่ได้รับการปรับจีดีพีเพิ่มขึ้นจากคาดการณ์เดิมในเดือน ม.ค.

แต่อย่างไรก็ดี เราคงจะไม่ประมาท เพราะขณะเดียวกันธนาคารโลกได้ปรับลดจีดีพีของโลกในปีนี้ลงเหลือ 2.4% จากเดิม 2.9% ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าเศรษฐกิจโลกยังทรงกับทรุด และในระยะสั้นคงยังไม่ฟื้นตัวเร็ว

ทั้งนี้ ยอมรับว่าอัตราการเติบโตเศรษฐกิจของไทย ในอาเซียนอยู่ในอัตราการเติบโตที่ต่ำมานานหลายปี และครั้งนี้ถือว่าเป็นครั้งแรกที่เริ่มปรับตัวขึ้นมาสวนกับอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจของโลก ซึ่งเราต้องประคองไม่ให้เศรษฐกิจทรุดตัวลง โดยหัวใจสำคัญอยู่ที่การวางรากฐานในอนาคต และต้องเน้นในเรื่องของการผลักดันการปฏิรูป

"ต้องยอมรับว่าเศรษฐกิจในปีที่ผ่านมาตกต่ำมาก และในปีนี้ก็เริ่มปรับตัวดีขึ้น และไม่ใช่เรื่องง่ายที่ธนาคารโลกจะปรับการเติบโตเศรษฐกิจประเทศใดขึ้นง่ายๆ แต่ก็อย่าพอใจแค่นี้ ซึ่งเชื่อว่าหากบ้านเมืองสงบเศรษฐกิจจะเจริญเติบโต และต่างประเทศจะเข้ามาลงทุนในประเทศไทยมากขึ้น รวมถึงประเทศในกลุ่มอาเซียนมีเศรษฐกิจที่ดี ก็จะยิ่งทำให้ไทยได้รับผลประโยชน์ เพราะว่าไปถือเป็นศูนย์กลางของอาเซียน" รองนายกรัฐมนตรี กล่าว

อย่างไรก็ตาม การที่มีสัญญาณทางด้านเศรษฐกิจที่ดีขึ้น แต่ประชาชนในระดับล่างยังมีรายได้ที่น้อยอยู่ จึงจำเป็นต้องช่วยให้ประชาชนมีรายได้เพิ่มสูงขึ้น เพราะจะส่งผลดีทำให้เศรษฐกิจโดยรวมดีขึ้น และจะมีส่วนช่วยในการเพิ่มการลงทุนให้มากขึ้น

รองนายกรัฐมนตรี ยังเชื่อว่า ในช่วงนี้สหรัฐฯ คงยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย เนื่องจากเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ยังไม่ฟื้นตัวมาตั้งแต่ปี 2008 เพราะสหรัฐฯ ใช้วิธีการอัดฉีดเม็ดเงินเพียงอย่างเดียว และนักธุรกิจเองก็ยังไม่มั่นใจในเศรษฐกิจของประเทศ เช่นเดียวกันในประเทศแถบยุโรปก็ยังไม่มีสัญญาณว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัว ขณะที่กลุ่มที่พอมีความหวังในการเติบโตทางเศรษฐกิจ คือ กลุ่มประเทศเอเชีย โดยเฉพาะประเทศจีน ที่ต่างหวังว่าอย่าให้เศรษฐกิจในประเทศจีนทรุดตัว

อย่างไรก็ดี ไทยจำเป็นที่จะต้องพึ่งพาตัวเอง ซึ่งรัฐบาลมีแนวคิดที่จะให้การช่วยเหลือกลุ่มธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ที่ต้องการเม็ดเงินไปพัฒนาธุรกิจ โดยจะใช้บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) ในการขับเคลื่อน โดยจะนำเสนอเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีต่อไป

นอกจากนี้ ในส่วนของฤดูกาลผลิตใหม่ของเกษตรกร พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีความตั้งใจที่จะช่วยเหลือเกษตรกรให้มีรายได้สูงขึ้น เพราะนายกรัฐมนตรี เห็นความสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก ซึ่งมีส่วนสำคัญในการเร่งการพัฒนาเศรษฐกิจ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ