นายสมชาย พูลสวัสดิ์ อธิบดีกรมสรรพสามิต เปิดเผยถึงยอดการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตในช่วง 8 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2559 (ต.ค.58-พ.ค.59) อยู่ที่ 3.49 แสนล้านบาท สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่ผ่านมา 5.43 หมื่นล้านบาท หรือ 18.41% และสูงกว่าเป้าหมาย 1.6 หมื่นล้านบาท หรือ 5.1% ซึ่งเป็นผลจากแนวโน้มเศรษฐกิจไทยที่ฟื้นตัวต่อเนื่อง ส่งผลให้การจัดเก็บภาษีของกรมสรรพสามิตทำได้สูงกว่าเป้าหมาย
ทั้งนี้ คาดว่าตลอดปีงบประมาณ 2559 การจัดเก็บภาษีสรรพสามติจะเกินเป้าหมายที่ตั้งไว้ 2-2.5 หมื่นล้านบาท ตามภาวะเศรษฐกิจที่ดีขึ้น ส่งผลทำให้มีการใช้จ่ายมากขึ้น สะท้อนจากยอดการขายรถยนต์ในปีนี้ที่ยังขยายตัวได้ดี โดยผู้ประกอบการยังประเมินว่าจะมีการผลิตรถยนต์ทั้งหมด 2 ล้านคัน เป็นการส่งออก 1.2 ล้านคัน และจำหน่ายภายในประเทศ 8 แสนคัน
สำหรับการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตในช่วง 8 เดือนของปีงบประมาณ 2559 นั้น สินค้าที่มียอดการจัดเก็บสูงสุด 5 อันดับแรกได้แก่ 1 ภาษีสรรพสามิตน้ำมัน จัดเก็บได้ 1.14 แสนล้านบาท 2. ภาษีสรรพสามิตรถยนต์ จัดเก็บได้ 7.6 หมื่นล้านบาท 3. ภาษีเบียร์ จัดเก็บได้ 6.21 หมื่นล้านบาท 4. ภาษีสุรา จัดเก็บได้ 4.48 หมื่นล้านบาท และ 5.ภาษียาสูบ จัดเก็บได้ 4.3 หมื่นล้านบาท
สำหรับผลการจัดเก็บรายได้ภาษีสรรพสามิตในพ.ค.59 กรมสรรพสามิตสามารถจัดเก็บได้รวม 4.2 หมื่นล้านบาท สูงกว่าปีก่อน 1.09 หมื่นล้านบาท หรือ 34.17% และสูงกว่าประมาณการ 3.3 พันล้านบาท หรือ 8.57% (ประมาณการ 3.9 หมื่นล้านบาท)
อธิบดีกรมสรรพสามิต ยังกล่าวถึงความคืบหน้าแนวทางการจัดเก็บภาษีสินค้าเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลสูงว่า ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการศึกษาให้รอบด้านว่าส่งผลกระทบต่อสุขภาพอย่างไร โดยจะหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) รวมทั้งสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ถึงผลดีผลเสียที่เกิดขึ้น เพื่อจะเสนอให้ฝ่ายนโยบายเป็นผู้ตัดสินใจดำเนินการต่อ โดยนายสมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลัง ได้สั่งการให้ศึกษาให้เสร็จภายใน 1 เดือน