นางมาลี โชคล้ำเลิศ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้ คณะนักธุรกิจจากเมืองมักเดอบวร์ก (Magdeburg) สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี ได้เดินทางมากระชับความสัมพันธ์ทางการค้าการลงทุนระหว่างไทย-เยอรมนี เพื่อประสานความร่วมมือในการส่งเสริมและผลักดันกลุ่มวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ของไทยให้เข้าถึงตลาดเยอรมนี ตลอดจนร่วมกันพัฒนาสินค้าไทยให้มีนวัตกรรมที่สามารถเข้าถึงตลาดสหภาพยุโรป (อียู) และแข่งขันในตลาดโลกได้
โดยคณะนักธุรกิจฯ ที่เดินทางมาเยือนครั้งนี้นำโดย นายไรเนอร์ นิทเช่ รองผู้ว่าการเทศบาลเมืองมักเดอบวร์ก (ด้านพัฒนาธุรกิจ การท่องเที่ยว และความร่วมมือระดับภูมิภาค) และนายเอเบอฮาร์ด เจ เทรมเพล ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ของกระทรวงพาณิชย์ด้านการค้าระหว่างประเทศ (HTAs) ณ กรุงเบอร์ลิน ซึ่งได้เสนอโครงการและกิจกรรมที่จะเป็นประโยชน์ต่อความร่วมมือไทย-เยอรมนี อาทิ การเข้าร่วมงานแสดงสินค้าในประเทศเยอรมนี โดยเฉพาะในกลุ่มของสินค้าแฟชั่น และอุตสาหกรรมหนัก ซึ่งที่ผ่านมาประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะงาน Berlin Fashion Show งาน Green Economy Conference, งาน Automotive Conference และงาน Electromobility รวมทั้งได้เชิญชวนให้คณะผู้ประกอบการไทยเดินทางเยือนเมืองมักเดอบวร์ก เพื่อศึกษาลู่ทางและโอกาสทางการค้า เนื่องจากเป็นเมืองที่มีความเจริญทั้งด้านเศรษฐกิจและวัฒนธรรม
ด้านนายสมเด็จ สุสมบูรณ์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กล่าวว่า เมืองมักเดอบวร์กเป็นเมืองที่มีศักยภาพด้านการออกแบบสินค้าแฟชั่นและสถาปัตยกรรม มีความก้าวหน้าในด้านเทคโลโลยีการผลิต รวมทั้งมีความพร้อมในเรื่องระบบโลจิสติกส์ สินค้าที่มีแนวโน้มในตลาดนี้ ได้แก่ สินค้าดีไซน์ รวมทั้งสินค้าและบริการผู้สูงวัย อาทิ ธุรกิจการดูแลสุขภาพ และการรักษาพยาบาล โดยเป็นเมืองเอกของรัฐซัคเซิน-อันฮัลท์ ตั้งอยู่ลุ่มแม่น้ำเอลเบอทางตอนเหนือของประเทศเยอรมนี ซึ่งเป็นหนึ่งในเมืองที่สำคัญแห่งหนึ่งในเรื่องเศรษฐกิจและการค้าของยุโรป มีการปกครองแบบพิเศษ คือการปกครองแบบเทศมนตรี มีนายกเทศมนตรีในการปกครอง การทำการค้ากับเมืองรองอย่างมักเดอบวร์กจะสามารถเชื่อมต่อไปยังเมืองหลัก ได้แก่ ฮัมบูร์ก เบอร์ลิน และฮันโนเวอร์ ต่อไปได้
สำหรับการค้าระหว่างไทย-เยอรมนีรวมกันเฉลี่ย 3 ปีย้อนหลังมีมูลค่าปีละประมาณ 10,154.22 ล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยไทยส่งออกเฉลี่ยมูลค่าปีละ 4,295.62 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และไทยนำเข้าเฉลี่ยมูลค่าปีละ 5,858.60 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และในปี 2558 เยอรมนีมี GDP อยู่ที่ 3.413 ล้านล้านเหรียญสหรัญฯ และ Per capita ที่ 41,955 เหรียญสหรัฐฯ คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจของเยอรมนีจะเจริญเติบโตขึ้นร้อยละ 1.4-1.6 ในปี 2559 ซึ่งปัจจัยหลักที่จะทำให้เศรษฐกิจของเยอรมนีเติบโตขึ้นนั้นไม่ได้มาจากการส่งออกเหมือนที่ผ่านมาแต่มาจากการบริโภคภายในประเทศเป็นหลัก