ภาวะตลาดเงินบาท: เปิด 35.28 อ่อนค่าหลังดอลล์แข็งค่า มองกรอบวันนี้ 35.20-35.35

ข่าวเศรษฐกิจ Monday June 13, 2016 09:03 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงิน เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 35.28 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าจากปิดตลาดเมื่อเย็นวัน ศุกร์ที่ 35.25/26 หลังดอลลาร์กลับมาแข็งค่าเมื่อเทียบค่าเงินสกุลหลัก

"บาทอ่อนค่าจากเย็นวันศุกร์เล็กน้อย หลังดอลลาร์แข็งค่าจากความกังวลเกี่ยวกับการลงประชามติของอังกฤษว่าจะออก จากกลุ่มอียูหรือไม่ ซึ่งผลโพลล์ออกมาคู่คี่ ทำให้นักลงทุนหันมาถือครองเงินสกุลหลัก" นักบริหารเงิน กล่าว

นักบริหารเงินประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ไว้ที่ 35.20-35.35 บาท/ดอลลาร์

"วันนี้เงินบาทมีแนวโน้มอ่อนค่า" นักบริหารเงิน กล่าว
  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยนอยู่ที่ระดับ 106.28 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่อยู่ที่ระดับ 107.06 เยน/ดอลลาร์
  • ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1233 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานนี้ที่อยู่ที่ระดับ 1.1298 ดอลลาร์/ยูโร
  • อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของ ธปท.อยู่ที่ระดับ 35.2620 บาท/
ดอลลาร์
  • ธปท.เผยรัฐออกมาตรการกระตุ้นดันเครื่องชี้ธุรกิจบัตรเครดิตดีดตัวดีขึ้น ปริมาณการใช้จ่ายรวมเพิ่มขึ้น 1.17 หมื่น
ล้านบาท เฉพาะใช้จ่ายในประเทศหมื่นกว่าล้านบาท ขณะที่ยอดสินเชื่อและจำนวนบัตรเครดิตพุ่งต่อเนื่อง ด้านสินเชื่อส่วนบุคคลยังคุม
เข้ม
  • น.ส.สุทธาภา อมรวิวัฒน์ รองผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสูงสุดศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ เปิดเผย
ว่า ขณะนี้ประเทศไทยยังไม่เข้าสู่ภาวะกับดักสภาพคล่อง แม้ว่าการที่อัตราดอกเบี้ยของไทยจะคงอยู่ในระดับที่ต่ำมาเป็นเวลานาน แต่
ปรากฏว่าภาวะเศรษฐกิจฟื้นตัวช้า อย่างไรก็ตามไทยไม่ได้มีปัญหาภาวะเงินออมล้น (Saving Glut) ที่เป็นตัวสะท้อนความไม่เชื่อมั่น
ใช้จ่าย โดยพบว่าผู้บริโภคจำนวนมากมีการมองหาการลงทุนที่เสี่ยงขึ้น เพื่อแลกกับผลตอบแทนที่สูงขึ้น
  • รายงานข่าวแจ้งว่า ธนาคารพาณิชย์ 6 แห่ง ได้ แก่ ธนาคารกรุงไทย ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ธนาคารทหารไทย
ธนาคารไทยพาณิชย์ ธนาคารธนชาต และ ธนาคารออมสิน ได้ร่วมกันพัฒนาประสิทธิภาพระบบการชำระเงินของไทย โดยติดตั้งเครื่อง
รับบัตรร่วมกันกว่า 400,000 เครื่อง ทั่วประเทศ
  • พาณิชย์ลุยหารือเอกชนรายกลุ่ม ประเมินแนวโน้มส่งออก เริ่มแล้วตั้งแต่เดือน มิ.ย.เป็นต้นไป พร้อมปรับแผนเชิงรุก
นำธุรกิจจัดบิสสิเนส แมตชิ่ง ช่วงผู้นำรัฐบาลเยือนประเทศต่างๆ หวังเพิ่มยอดส่งออกในทันที
  • สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อวันศุกร์ (10 มิ.ย.) โดยราคาน้ำมัน WTI ร่วงหลุด
จากระดับ 50 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากมีรายงานว่า จำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันที่ใช้งานในสหรัฐเพิ่มขึ้นในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งสะท้อน
ให้เห็นว่าการผลิตน้ำมันในสหรัฐมีแนวโน้มสูงขึ้น นอกจากนี้ การแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐยังเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่กดดันให้นักลง
ทุนเทขายสัญญาน้ำมัน โดยสัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ค.ร่วงลง 1.49 ดอลลาร์ หรือ 3% ปิดที่ 49.07 ดอลลาร์/
บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนส.ค.ดิ่งลง 1.41 ดอลลาร์ หรือ 2.7% ปิดที่ 50.54 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อวันศุกร์ (10 มิ.ย.) โดยทองคำปิดบวกติดต่อกัน 3 วันทำการ เนื่องจากนักลง
ทุนยังคงเดินหน้าซื้อทองคำเพื่อความปลอดภัย หลังจากตลาดหุ้นสหรัฐร่วงลงอย่างหนักเมื่อคืนนี้ รวมทั้งความวิตกกังวลเกี่ยวกับการลง
ประชามติของชาวอังกฤษที่จะตัดสินใจว่าจะออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) หรือไม่ในช่วงปลายเดือนนี้ โดยสัญญาทองคำตลาด
COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค.เพิ่มขึ้น 3.20 ดอลลาร์ หรือ 0.25% ปิดที่ 1,275.90 ดอลลาร์/ออนซ์ และ
ตลอดทั้งสัปดาห์ สัญญาทองคำปรับตัวขึ้นทั้งสิ้น 2.7%
  • สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อวัน
ศุกร์ (10 มิ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงมีมุมมองที่เป็นบวกต่อเศรษฐกิจสหรัฐ หลังจากมีรายงานว่าข้อมูลแรงงานของสหรัฐและ
ข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นๆยังคงแข็งแกร่ง โดยดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับยูโรที่ระดับ 1.1261 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของ
วันพฤหัสบดีที่ 1.1326 ดอลลาร์สหรัฐ หากเทียบกับเงินเยน ดอลลาร์อ่อนค่าลงสู่ระดับ 106.71 เยน จากระดับ 106.75 เย

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ