นักบริหารเงิน เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ระดับ 35.21 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าจากเปิดตลาดที่ระดับ 35.28 บาท/ดอลลาร์ เคลื่อนไหวตามค่าเงินภูมิภาค ระหว่างวันเงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 35.18-35.28 บาท/ดอลลาร์
"เงินบาทกลับมาแข็งค่าช่วงบ่าย ระหว่างวันเคลื่อนไหวตามค่าเงินภูมิภาค" นักบริหารเงิน กล่าว
นักบริหารเงินประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันพรุ่งนี้ไว้ที่ 35.15-35.30 บาท/ดอลลาร์
"ทิศทางวันพรุ่งนี้น่าจะแกว่งตัวในกรอบ รอความชัดเจนจากการประชุม FOMC กลางสัปดาห์" นักบริหารเงิน กล่าว
- ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 105.94 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าอยู่ที่ระดับ 106.28 เยน/ดอลลาร์
- ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1260 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าอยู่ที่ระดับ 1.1233 ดอลลาร์/ยูโร
- ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,421.86 จุด ลดลง 7.35 จุด, -0.51% มูลค่าการซื้อขาย 54,564.16 ล้านบาท
- สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 444.52 ล้านบาท (SET+MAI)
- ศูนย์วิจัยทองคำ เผยดัชนีความเชื่อมั่นราคาทองคำในเดือนมิถุนายน 2559 ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน 5.12 จุด
- ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะมีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับ 0.25-0.50% ไว้
- ที่ประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเอเชีย - ยุโรป (Asia - Europe Finance Ministers’
- สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) เปิดเผยในวันนี้ว่า ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนพ.ค.ปรับตัวขึ้น 6% เทียบรายปี
ส่วนในช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้ ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น 5.9% เมื่อเทียบรายปี เพิ่มขึ้นจากระดับ 5.8% ใน ช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้
- ผลการสำรวจของกระทรวงการคลังร่วมกับสำนักงานคณะรัฐมนตรีของญี่ปุ่นพบว่า ความเชื่อมั่นทางธุรกิจของบริษัท
- กระทรวงแรงงานของสิงคโปร์ เผยอัตราว่างงานโดยรวมของสิงคโปร์ทรงตัวในระดับต่ำที่ 1.9% ในเดือนมี.ค.
- กระทรวงการคลังจีน เผยรายได้ด้านการคลังของรัฐบาลจีนในเดือนพ.ค.เพิ่มขึ้น 7.3% เมื่อเทียบรายปี สู่ระดับ
1.546 ล้านล้านหยวน (2.348 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ) แต่อัตราการขยายตัวของรายได้ด้านการคลังในเดือนพ.ค.นั้น ชะลอตัวลง
จากเดือนเม.ย.ที่มีการขยายตัวแข็งแกร่งถึง 14.4% ทั้งนี้คาดว่า รายได้ด้านการคลังจะยังคงได้รับผลกระทบจากนโยบายทางการ
เงินในอีกหลายเดือนข้างหน้านี้ เนื่องจากเศรษฐกิจจีนยังคงชะลอตัว ขณะที่รายจ่ายด้านการคลังในเดือนพ.ค.พุ่งขึ้น 17.6% แตะ
1.546 ล้านล้านหยวน ส่งผลให้รายจ่ายด้านการคลังช่วงเดือนม.ค.-พ.ค. เพิ่มขึ้น 13.6% เมื่อเทียบรายปี แตะระดับ 6.653 ล้าน
ล้านหยวน