(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดเงินบาท: เปิด 35.16/18 แนวโน้มยังแข็งค่า รอความชัดเจนจากประชุม FED-BOJ-BOE

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday June 14, 2016 11:06 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงิน เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้ที่ระดับ 35.16/18 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าเล็กน้อยจากวานนี้ที่ปิด ตลาดอยู่ที่ระดับ 35.21 บาท/ดอลลาร์

"ตั้งแต่เช้าอยู่แถวๆ 35.16/19 มองแนวโน้มมีโอกาสแข็งค่าต่อ มองด้านบน 35.25 ด้านล่าง 35.10 รอ FOMC คืน พรุ่งนี้ เวลาประมาณตี 2 ของวันพฤหัสบดี แล้วผลการประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) กับ ผลประชุมธนาคารกลางอังกฤษ (BOE)"นักบริหารเงิน กล่าว

ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาท 35.10-35.25 บาท/ดอลลาร์

ล่าสุด SPOT อยู่ที่ระดับ 35.1783 บาท/ดอลลาร์ ส่วน THAI BAHT FIX 3M (13 มิ.ย.) อยู่ที่ระดับ 1.27940% ส่วน THAI BAHT FIX 6M (13 มิ.ย.) อยู่ที่ระดับ 1.45634%

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยนอยู่ที่ระดับ 106.05 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่อยู่ที่ระดับ 105.94 เยน/ดอลลาร์
  • ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1295 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานนี้ที่อยู่ที่ระดับ 1.1260 ดอลลาร์/ยูโร
  • อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของ ธปท.อยู่ที่ระดับ 35.2130 บาท/
ดอลลาร์
  • ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เผยมูลค่าระดมทุน 5 เดือนแรกทรุดฮวบ อยู่ที่ 25,034 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อนก
ว่า 83.9% เหตุจากภาวะเศรษฐกิจยังไม่ฟื้น ส่งผลให้เอกชนชะลอระดมทุน พร้อมคงเป้า มาร์เกตแคปไอพีโอปีนี้ที่ 2.5 -2.7 แสน
ล้านบาท
  • ธนาคารกรุงเทพ ยังคงแผนธุรกิจต่างประเทศของธนาคาร ซึ่งในปีนี้ธนาคารจะดูแลการเติบโตแบบค่อยเป็นค่อยไปไม่
เกิน 10% เนื่องจากเศรษฐกิจไทยและอาเซียนอิงกับเศรษฐกิจโลกที่เติบโตต่ำต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2558 โดยเฉพาะการชะลอตัวของ
เศรษฐกิจจีนที่ปรับตัวลงเหลือ 6% กว่า จากที่เคยเติบโตสูงสุดเป็นเลข 2 หลัก
  • ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ออกหนังสือเวียนถึงผู้จัดการธนาคารพาณิชย์ทุกแห่ง เรื่องการเปลี่ยนบัตรเอทีเอ็ม
และบัตรเดบิตจากแบบแถบแม่เหล็กเป็นบัตรติดชิปให้แก่ลูกค้า เพราะตั้งแต่ ธปท.กำหนดให้ธนาคารพาณิชย์ต้องเริ่มเปลี่ยนระบบบัตรเอ
ทีเอ็มหรือบัตรเดบิต ตั้งแต่ 16 พ.ค. 2559 เป็นต้นมา กลับพบว่าการให้ข้อมูลและแนวปฏิบัติของธนาคารพาณิชย์หลายแห่งยังไม่
ชัดเจนเพียงพอ เห็นได้จากข้อร้องเรียนของลูกค้าในหลายกรณี เช่น การขึ้นค่าธรรมเนียมชิปการ์ด การยกเลิกบัตรเอทีเอ็มแบบ
ธรรมดา การบังคับขายบัตรที่มีค่าธรรมเนียมสูงที่มีการพ่วงสิทธิประโยชน์เพิ่มขึ้นโดยไม่ให้ทางเลือกกับลูกค้าในการใช้บัตรแบบธรรมดา
  • กลุ่มคิงเพาเวอร์รุกคืบธุรกิจการบิน ปิดดีลซื้อ 'แอร์เอเชีย' ควักจ่ายตระกูลแบเลเว็ลด์เฉียด 8 พันล้าน ถือหุ้นใหญ่
38.98% 'ธรรศพลฐ์' เหลือ 5% พร้อมตั้งโต๊ะซื้อหุ้นคืนจากผู้ถือหุ้นเดิมทั้งหมด 'วิชัย' เปิดแถลงข่าวแจงรายละเอียดวันนี้
  • รัฐบาลเตรียมจัดตั้งคณะกรรมการขึ้นมาหนึ่งชุด เพื่อขับเคลื่อนงานด้านการลงทุนของประเทศ โดยเฉพาะด้านโครง
สร้างพื้นฐาน ทั้งการคมนาคมขนส่ง และสาธารณูปโภค ซึ่งนายกรัฐมนตรีจะนั่งเป็นประธานติดตามงานด้วยตัวเอง เพราะต้องการผลัก
ดันโครงการต่าง ๆ ให้เป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้
  • ขณะนี้นักลงทุนทั่วโลกกังวลเกี่ยวกับการลงประชามติของสหราชอาณาจักร วันที่ 23 มิ.ย. นี้ ว่ามติของคนอังกฤษจะ
ออกจากการเป็นสมาชิกของสหภาพยุโรป (อียู) หรือไม่ เพราะมี ผลต่อการดำเนินนโยบายทางการเงินของหลายธนาคารกลางทั่ว
โลก เนื่องจากผลสำรวจของสำนักโพลต่าง ๆ พบว่าสัดส่วนการให้ออกและให้อยู่ต่อในสมาชิกอียูมีอัตราที่ใกล้เคียงกัน ทำให้นักลงทุน
เริ่มชะลอการลงทุน หรือโยกเงินจากสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูง เช่น ตลาดหุ้น แล้วหันมาลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความปลอดภัยโดยเฉพาะ
ทองคำและพันธบัตร ส่งผลให้ตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวลดลงทุกตลาด
  • สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (13 มิ.ย.) หลังจากเบเกอร์ ฮิวจ์ ซึ่งเป็นบริษัทผู้
ให้บริการแก่อุตสาหกรรมน้ำมัน เปิดเผยว่า จำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันที่ใช้งานในสหรัฐ ซึ่งบ่งชี้ว่าการผลิตน้ำมันในสหรัฐมีแนวโน้มสูง
ขึ้น โดยสัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ค.ลดลง 19 เซนต์ หรือ 0.4% ปิดที่ 48.88 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบ
เบรนท์ส่งมอบเดือนส.ค.ลดลง 19 เซนต์ หรือ 0.4% ปิดที่ 50.35 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (13 มิ.ย.) โดยทองคำปิดบวกติดต่อกัน 4 วันทำการ เนื่องจากการ
ร่วงลงอย่างต่อเนื่องของตลาดหุ้นสหรัฐได้กระตุ้นให้นักลงทุนหลีกเลี่ยงสินทรัพย์เสี่ยงและเข้าซื้อทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย นอก
จากนี้ ความวิตกกังวลเกี่ยวกับการลงประชามติของชาวอังกฤษเพื่อตัดสินใจว่าจะออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) หรือไม่ในวันที่
23 มิ.ย.นั้น ยังเป็นอีกปัจจัยที่หนุนแรงซื้อทองคำเช่นกัน โดยสัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.
ค.พุ่งขึ้น 11 ดอลลาร์ หรือ 0.86% ปิดที่ระดับ 1,286.90 ดอลลาร์/ออนซ์
  • สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับยูโร ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (13 มิ.ย.) เนื่องจากนัก
ลงทุนชะลอการซื้อขายก่อนที่จะทราบผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารสหรัฐ (เฟด) ซึ่งมีขึ้นในวันที่ 14-15 มิ.ย.นี้ ขณะที่
เงินปอนด์ร่วงลงเนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น หากชาวอังกฤษลงมติสนับสนุนให้อังกฤษถอนตัวออกจากการ
เป็นสมาชิกสหภาพยุโรป โดยเงินยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1296 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.1261
ดอลลาร์สหรัฐ ในขณะที่ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบเยนที่ระดับ 106.18 เยน จากระดับ 106.71 เยน

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ