พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบร่าง พ.ร.บ.การจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ ซึ่งเป็นพัฒนาการจัดซื้อจัดจ้างที่จะนำมาทดแทนแนวทางในอดีตที่เคยใช้ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี, ข้อตกลงคุณธรรม, การเปลี่ยนรูปแบบจาก e-Auction มาเป็น e-Biding ซึ่งจะช่วยให้การจัดซื้อจัดจ้างของภาครัฐเป็นที่ยอมรับของผู้ประกอบการ โดยกฎหมายฉบับนี้ผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการกฤษฎีกาเรียบร้อยแล้ว เตรียมเสนอเข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุมสภานิติบัญญัติต่อไป
"เป็นการยกระดับกฎหมายขึ้นเป็นพระราชบัญญัติ แต่ไม่ได้หมายความว่าที่ผ่านมาเราไม่ได้ทำอะไรเลย มีการปรับระบบการจัดซื้อจัดจ้างเพื่อให้เกิดความโปร่งใสมากขึ้นอยู่แล้ว...กฎหมายที่มีอยู่ตามไม่ทัน สิ่งที่เราทำวันนี้จึงปรับกฎหมายจากระเบียบสำนักนายกฯ ให้เป็นพระราชบัญญัติ" พล.ต.สรรเสริญ กล่าว
โฆษกประจำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า กฎหมายฉบับนี้จะบังคับใช้กับหน่วยงานราชการทุกแห่ง ทั้งส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค รัฐวิสาหกิจตามกฎหมายว่าด้วยวิธีการงบประมาณ องค์การมหาชน องค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ มหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐ หน่วยงานอิสระของรัฐ และหน่วยงานอื่นในกฎกระทรวง เว้นองค์กรตรวจสอบอำนาจตามรัฐธรรมนูญ
"กรณีของ ปตท.ก็มีข้อยกเว้นตามการดำเนินการของรัฐวิสาหกิจที่เกี่ยวกับการพาณิชย์โดยตรง แต่ไม่ได้หมายความว่าได้รับการยกเว้นทั้งหมด ต้องไปดูในรายละเอียดว่ามีกิจกรรมใดบ้างที่ต้องเสนอต่อคณะกรรมการฯ" พล.ต.สรรเสริญ กล่าว
ทั้งนี้ตามกฎหมายฉบับดังกล่าวจะมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมา 5 ชุด ได้แก่ คณะกรรมการนโยบาย, คณะกรรมการวินิจฉัยการจัดซื้อจัดจ้าง, คณะกรรมการกำกับราคากลาง, คณะกรรมการร่วมมือป้องกันการทุจริต และคณะกรรมการพิจาณาการอุทธรณ์ ซึ่ง บมจ.ปตท. (PTT) ต้องนำเสนอให้คณะกรรมการฯ ตัดสินว่ามีเรื่องใดที่ต้องดำเนินการตามกฎหมายฉบับนี้
โฆษกประจำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สิ่งสำคัญของการจัดซื้อจัดจ้างต่อไปนี้อยู่ที่ความคุ้มค่า โปร่งใส ตรวจสอบได้ มีประสิทธิภาพ และประสิทธิผล ไม่ใช่การคำนึงถึงแต่เรื่องราคาเพียงอย่างเดียวเหมือนในอดีต และหากเกิดการอุทธรณ์จะต้องมีการพิจารณาอย่างรวดเร็ว
"สมัยก่อนจะซื้ออะไรสักอย่างหนึ่ง ใครให้ราคาต่ำก็เอาอันนั้น ต่อจากนี้ไม่ใช่แล้ว คำนึงถึงคุณภาพประกอบด้วย ของราคาต่ำคุณภาพไม่ได้มาตรฐานก็ไม่ได้...นี่คือความพยายามของรัฐบาลชุดนี้ที่ต้องการให้เกิดความโปร่งใส" พล.ต.สรรเสริญ กล่าว