พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบให้ขยายเวลาการยื่นแบบแสดงภาษีเงินได้นิติบุคคลให้กับบริษัทที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุนจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ซึ่งจะต้องชำระภาษีเงินได้นิติบุคคล
เรื่องนี้ บริษัทที่เข้ามาลงทุนในประเทศไทยต้องติดต่อประสานงานกับบีโอไอเพื่อที่จะขอสิทธิประโยชน์ในการลงทุนแล้วก็มีการนำรายได้ กำไรขาดทุนมาคำนวณเพื่อที่จะยื่นภาษี บีโอไอได้รับข้อท้วงติงจากกรมสรรพากรว่าการคำนวณภาษีมีหลักการคลาดเคลื่อนไม่ค่อยตรงกับที่บีโอไอคำนวณ บีโอไอจึงส่งการแปรความของบีโอไอไปให้สำนักงานกฤษฎีกาตีความ ซึ่งสำนักงานกฤษฎีกาตีความใกล้เคียงกับที่บีโอไอตีความ
"ขณะนี้ความเห็นของ 2 หน่วยงานหลักคือบีโอไอ กับ กรมสรรพากรไม่ตรงกัน เรื่องจึงต้องไปถึงศาล ในที่สุดศาลพิพากษาออกมาว่าการวินิจฉัยของกรมสรรพากรถูกต้อง เป็นเหตุให้บริษัทหลายบริษัทโดยเฉพาะบริษัทของต่างประเทศมีความรู้สึกว่าตนปฏิบัติตามที่บีโอไอแนะนำมาตลอดและไม่ตั้งใจจะหลีกเลี่ยงหรือหลบเลี่ยงภาษี แต่สิ่งที่บีโอไอนำเสนอไม่ถูกต้องตามกฎหมายไม่ถูกต้องตามที่สรรพากรกำหนด เพราะฉะนั้น กระทรวงการคลังจึงนำเสนอขออนุมัติหลักการจากคณะรัฐมนตรีว่าเห็นควรขยายระยะเวลายื่นแบบแสดงภาษีนิติบุคคลออกไปโดยบริษัทเหล่านี้ไม่ต้องเสียค่าปรับ เพื่อแสดงให้เห็นว่ารัฐบาลให้ความสำคัญกับนักลงทุนต่างประเทศ อะไรที่เป็นความตั้งใจที่จะขับเคลื่อนเศรษฐกิจไม่มีจุดประสงค์จะเบี้ยวภาษี หลีกเลี่ยงภาษี หรือชำระภาษีไม่ครบก็ไม่ควรเป็นความผิดที่บริษัทเหล่านี้ไม่ต้องรับผิดชอบ แต่รัฐบาลจะช่วยรับผิดชอบให้ด้วยการขยายระยะเวลายื่นภาษีออกไป"