(เพิ่มเติม) พาณิชย์ ผลักดันร้าน"หนูณิชย์ พาชิม"เป็นแหล่งสร้างอาชีพ-รายได้ให้ผู้ประกอบการ

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday June 14, 2016 17:36 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า ขณะนี้กระทรวงพาณิชย์ได้เดินหน้าเปิดรับสมัครร้านอาหารเข้าร่วมโครงการ “หนูณิชย์ พาชิม" อย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดมีจำนวนร้านเข้าร่วมโครงการแล้ว 11,092 ราย แบ่งเป็นกรุงเทพมหานคร 50 เขต 3,721 ราย ยกตัวอย่างเช่น เขตคลองเตยมี 48 ร้าน เขตดุสิต มี 62 ร้าน ส่วนภูมิภาค 7,371 ราย ยกตัวอย่างเช่น กาญจนบุรี มี 104 ร้าน สระแก้ว มี 64 ร้าน อุบลราชธานี มี 157 ร้าน ชัยภูมิ มี 115 ร้าน นครศรีธรรมราช มี 90 ร้าน และยะลา มี 71 ร้าน เป็นต้น

ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์ยังอยู่ระหว่างการยกระดับร้านอาหารที่เข้าร่วมโครงการให้ได้มาตรฐาน โดยจะมีการเข้าไปให้ความรู้เรื่องการบริหารจัดการ การลดต้นทุน และมาตรฐานร้านค้าและอาหาร เพื่อให้ร้านหนูณิชย์เป็นร้านอาหารที่เป็นแหล่งสร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้กับผู้ประกอบการ ทั้งตัวเจ้าของร้านอาหารที่จะมีรายได้เพิ่มขึ้น จากการขายอาหารปรุงสำเร็จ และยังเกิดการกระจายรายได้และสร้างงานในชุมชน เพราะร้านหนูณิชย์ต้องไปหาซื้อวัตถุดิบจากร้านค้าปลีก ค้าส่ง ทำให้เกิดการจ้างงานเพิ่มขึ้น

“จากการสำรวจการลดภาระค่าครองชีพให้กับประชาชนจากร้านอาหารหนูณิชย์ที่มีอยู่ทั้งหมด พบว่า ได้ช่วยให้ประชาชนหาซื้ออาหารปรุงสำเร็จได้ในราคาถูกลง 10-35% ของค่าใช้จ่ายในการซื้ออาหารต่อวัน เพราะร้านอาหารหนูณิชย์ จำหน่ายอาหารปรุงสำเร็จในราคาเฉลี่ยอยู่ที่จาน/ชามละ 25-35 บาท หรือช่วยลดภาระให้ประชาชนทั้งประเทศได้ประมาณวันละ 9.13 ล้านบาท" นางอภิรดี กล่าว

ด้านน.ส.วิบูลย์ลักษณ์ ร่วมรักษ์ อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า สัปดาห์หน้าจะประชุมร่วมกับสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) นิคมอุตสาหกรรมต่างๆ รวมทั้งสภาแรงงาน เพื่อหาข้อสรุปในการผลักดันร้านหนูณิชย์ พาชิม ที่จำหน่ายราคาอาหารปรุงสำเร็จไม่เกินจาน/ชาม/ถุงละ 35 บาท เข้าไปเปิดจุดจำหน่ายบริเวณโรงงานอุตสาหกรรม เพื่อช่วยเหลือภาระค่าครองชีพให้กับกลุ่มผู้มีรายได้น้อย

สำหรับราคาผักสดขณะนี้เริ่มปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องหลังจากสภาพอากาศมีฝนตกในพื้นที่เพาะปลูกมากขึ้น เช่น ถั่วฝักยาว ขณะนี้ราคาลดลงมาอยู่ที่ประมาณกิโลกรัม (กก.) ละ 40 บาท ขณะที่ราคาเนื้อสัตว์และไข่ไก่ยังทรงตัว และมีแนวโน้มลดลง ส่วนราคาสินค้าอุปโภคบริโภคต่างๆ ยังคงทรงตัว ทั้งน้ำมันปาล์มบรรจุขวด น้ำมันถั่วเหลืองบรรจุขวด รวมถึงน้ำตาลทราย ยังมีปริมาณเพียงพอ ไม่ปรับขึ้นราคา และยังไม่มีผู้ประกอบการรายใดยื่นขอเสนอปรับราคาเข้ามา มั่นใจว่า ปีนี้จะสามารถตรึงราคาสินค้าไว้ในระดับเดิมจนถึงสิ้นปี


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ