นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ผู้อำนวยการ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 14 มิ.ย.59 ได้มีมติเห็นชอบร่างบันทึกความร่วมมือเกี่ยวกับการดำเนินการของโครงการจัดการกองทุนรวมภูมิภาคเอเชียข้ามพรมแดนภายใต้กรอบเอเปค (Memorandum of Cooperation on the Establishment and Implementation of the Asia Region Funds Passport : MOC) และมอบหมายให้เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์หรือผู้แทน ลงนามในร่าง MOC ดังกล่าว
ร่าง MOC ฉบับนี้เป็นเอกสารกำหนดแนวทางและหลักเกณฑ์ที่จำเป็นสำหรับการเสนอขายหน่วยลงทุนของกองทุนรวมภายใต้โครงการจัดการกองทุนรวมภูมิภาคเอเชียข้ามพรมแดนภายใต้กรอบเอเปค (Asia Region Funds Passport: ARFP) เพื่ออำนวยความสะดวกการเสนอขายหน่วยลงทุนของกองทุนรวมระหว่างเขตเศรษฐกิจที่ร่วมลงนาม
สำหรับสาระสำคัญของร่าง MOC ได้แก่ กองทุนรวมที่ได้รับความเห็นชอบจากเขตเศรษฐกิจหนึ่ง (Home Jurisdiction) สามารถไปเสนอขายหน่วยลงทุนต่อผู้ลงทุนรายย่อยในเขตเศรษฐกิจอื่น ๆ ที่เข้าร่วมโครงการ (Host Jurisdiction) ได้ โดยดำเนินการผ่านตัวกลาง (Intermediaries) ที่ได้รับใบอนุญาตหรือกำกับดูแลโดยหน่วยงานกำกับดูแลตลาดทุนของ Host Jurisdiction ทั้งนี้ หน่วยงานกำกับดูแลตลาดทุนของ Host Jurisdiction ยังคงมีอำนาจระงับการเสนอขายกองทุนรวมได้ตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดในร่าง MOC
หน่วยงานกำกับดูแลตลาดทุนจะดำเนินการภายในเพื่อประกาศใช้หลักเกณฑ์ ARFP ภายใน 18 เดือนหลังจากวันที่ 30 มิ.ย.59 ซึ่งเป็นวันที่ร่าง MOC มีผลใช้บังคับ
ทั้งนี้ ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับจากการร่วมลงนามในร่าง MOC ดังกล่าว คือ การยกระดับตลาดทุนไทยให้เป็นที่ยอมรับในระดับภูมิภาค ซึ่งจะก่อให้เกิดประโยชน์ทั้งแก่ตลาดทุน ผู้ลงทุน และอุตสาหกรรมกองทุนรวมของไทย รวมทั้งส่งเสริมบทบาทของไทยในการผลักดันให้เกิดความเชื่อมโยงระหว่างตลาดทุนในภูมิภาคเพิ่มเติมจากการเสนอขายกองทุนรวมข้ามพรมแดนภายใต้ ASEAN Collective Investment Schemes Framework ภายใต้กลุ่มหน่วยงานกำกับดูแลตลาดทุนของอาเซียน (ASEAN Capital Markets Forum) ที่ได้เริ่มดำเนินการแล้ว ตั้งแต่ปี 2557 ระหว่างมาเลเซีย ไทย และสิงคโปร์