นางดวงพร รอดพยาธิ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยถึงการเปิดยื่นซองเสนอราคาซื้อข้าวในสต๊อกรัฐบาลรวม 16 ชนิด ปริมาณ 2.23 ล้านตันว่า มีผู้ยื่นซองทั้งสิ้น 64 ราย จากที่กรมการค้าต่างประเทศเปิดให้เอกชนยื่นซองเอกสารคุณสมบัติมีเอกชน 69 รายมายื่นซองโดยเสนอราคาซื้อข้าวขาวตันละประมาณ 11,000 บาท และปลายข้าวตันละ 7,000-8,000 บาท
"ราคาที่เสนอซื้อ ทั้งข้าวขาว และปลายข้าว น่าพอใจ เพราะใกล้เคียงกับราคาตลาด โดยข้าวขาวราคาตลาดปัจจุบันตันละ 13,000-14,000 บาท ส่วนปลายข้าว ตันละ 10,000-11,000 บาท น่าจะอนุมัติขายให้ได้เกินครึ่งของปริมาณที่นำมาเปิดประมูล ถ้าครั้งนี้ขายได้ราว 1 ล้านตัน จะทำให้ข้าวในสต๊อกเหลือไม่ถึง 10 ล้านตัน" นางดวงพร กล่าว
อย่างไรก็ตาม คณะอนุกรรมการระบายข้าวจะพิจารณาราคาที่เสนอซื้ออีกครั้ง หากรายใดเสนอสูงกว่าราคาเกณฑ์ขั้นต่ำที่กำหนด จะเสนอให้คณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) ที่มีนายกรัฐมนตรี เป็นประธานพิจารณาอนุมัติขายให้ต่อไป
นางดวงพร กล่าวว่า ในช่วงการบริหารงานของรัฐบาล คสช. สามารถระบายข้าวในสต็อกได้แล้ว 9.7 ล้านตัน คิดเป็นมูลค่า 115,000 ล้านบาท (ยังไม่รวมการเปิดประมูลครั้งล่าสุดวันนี้) โดยแบ่งเป็นการเปิดประมูลทั่วไป 6.4 ล้านตัน มูลค่า 66,600 ล้านบาท และการขายแบบรัฐต่อรัฐ (G to G) 3.3 ล้านตัน ให้แก่จีน, ฟิลิปปินส์ และอินโดนีเซีย ส่วนสต็อกที่เหลือล่าสุดไม่ถึง 10 ล้านตันนั้น จะพยายามระบายให้หมดภายในสิ้นปีนี้
สำหรับปริมาณการส่งออกข้าวของไทยล่าสุด ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-13 มิ.ย.59 สามารถส่งออกได้แล้ว 4.6 ล้านตันจากเป้าหมายทั้งปีที่ตั้งไว้ 9.5 ล้านตัน หรือเพิ่มขึ้น 13% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่มีมูลค่า 71,682 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9%