นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ระบุว่า ในวันที่ 23 มิ.ย.จะมีเหตุการณ์สำคัญที่จะมีผลกระทบกับภาคเศรษฐกิจและภาคการเงิน เรื่องการลงประชามติของอังกฤษเกี่ยวกับการถอนตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) เรื่องนี้แวดวงการเงินและภาคธุรกิจให้ความสนใจเป็นอย่างมาก และยังไม่มีใครสามารถคาดการณ์ได้ถึงผลการลงประชามติครั้งนี้ เพราะความเป็นไปได้มีทั้งออกและไม่ออก
ดังนั้นสิ่งที่จะเกิดขึ้นภายหลังการลงประชามติครั้งนี้คาดว่าจะเกิดความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน การเคลื่อนย้ายสินทรัพย์เพราะนักลงทุนส่วนใหญ่ที่ได้ทราบผล จะมีการเคลื่อนย้ายสินทรัพย์จากที่มีความเสี่ยงสูงไปที่มีความเสี่ยงต่ำ ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องระมัดระวัง
ผู้ว่าธปท. กล่าวว่า ในส่วนของไทยเอง ภาคธุรกิจควรมีการบริหารความเสี่ยงโดยการปิดความเสี่ยงอย่างระมัดระวัง และในส่วนธปท.จะมีการเฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และเตรียมเครื่องมือเพื่อไม่ให้ผลกระทบที่เกิดขึ้นจากความผันผวนของเศรษฐกิจโลกและตลาดการเงินมากระทบการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย
"คาดว่าผลที่เกิดจากการลงประชามติครั้งนี้ หากอังกฤษออกน่าจะทำให้เกิดความเสี่ยงในตลาดการเงินในระยะกลางถึงระยะยาว ...ถือเป็นช่วงที่มีความเสี่ยงกับภาคเศรษฐกิจมากที่สุด ดังนั้นธุรกิจไทยที่มีความเกี่ยวกับกับปัญหานี้ของอังกฤษ ยุโรป จะต้องมีการจับตาและบริหารความสี่ยงอย่างมีนัยสำคัญ"