นายพรศิลป์ พัชรินทร์ตนะกุล นายกสมาคมผู้ผลิตอาหารสัตว์ไทย ในฐานะเลขาธิการสมาพันธ์ปศุสัตว์และเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ เปิดเผยว่า เบื้องต้น ถ้าอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป จะมีความไม่แน่นอนเกิดขึ้นอย่างน้อยเป็นเวลาประมาณ 2 เดือน ถ้าความไม่แน่นอนเกิดขึ้นในภาคธุรกิจมีปัญหาคือ เรื่องอัตราแลกเปลี่ยน หุ้น ตลาดทุน การลงทุนจะปั่นป่วน แต่เรื่องการค้าโดยทั่วไปของเรากับอังกฤษอาจจะไม่กระทบเท่าไหร่ในแง่ของปริมาณและจำนวน
"2-3 เดือนแรก อังกฤษจะมีปัญหากระทบกับอียูและกระทบถึงเรา โดยเฉพาะเรื่องอัตราแลกเปลี่ยน เพราะคาดว่าเงินปอนด์น่าจะอ่อนค่าลง 10% พอลงก็ดีและไม่ดี ถ้านำเข้าจากอังกฤษอาจจะเหนื่อยหน่อย ส่วนค่าเงินบาทคาดกว่าจะบวกลบประมาณ 5-10 สตางค์จะปัจจุบัน"นายพรศิลป์ กล่าว
นอกจากนี้ เมื่ออังกฤษออกจากการเป็นสมาชิกสหภาพยุโรปแล้ว อังกฤษก็ต้องปรับนโยบายของตัวเองว่าจะทำอย่างไรต่อเพื่อรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของตัวเอง ซึ่งคาดว่ารัฐบาลอังกฤษจะพยายามหาทางทดแทนสิ่งที่ขาดหายไปจากการออกจากสมาชิกสหภาพยุโรป เพราะการเป็นสมาชิกสหภาพยุโรปคือการอยู่รวมกันในตลาดใหญ่ เรื่องสิทธิประโยชน์หลายอย่าง
"ถ้าออกไป รัฐบาลอังกฤษก็ต้องหาทางบอกชาวบ้านว่าออกไปแล้วดีอย่างไร เศรษฐกิจจะยืนอยู่ได้และดีกว่าเก่าได้อย่างไร มาตรการทางการเงินและการคลัง อย่างน้อยๆ คนอังกฤษก็ต้องสบายใจก่อน"นายพรศิลป์ กล่าว
ทั้งนี้ ส่วนตัวคิดว่าอังกฤษไม่ควรจะออกจากอียู เพราะวันนี้โลกเชื่อมโยงกัน อังกฤษถึงออกไปก็ต้องเชื่อมโยงกับคนอื่นอยู่
"ออกไปแล้วไปอยู่คนเดียวในโลกได้ที่ไหน เพียงแต่ต้องเขียนระเบียบใหม่ว่าจะอยู่กับคนอื่นได้อย่างไร ความเชื่อมโยงหนีกันไม่พ้นอยู่แล้ว เป็นเรื่อง Connectivity ถ้าอยู่ในอียูก็สมบูรณ์อยู่แล้ว ออกมาก็คงอยู่ได้แต่จะเหนื่อย"นายพรศิลป์ กล่าว