น.ส.รุ่ง สงวนเรือง ผู้อำนวยการผู้บริหารกลุ่มวิเคราะห์ตลาดการเงิน ธนาคารกรุงศรีอยุธยา (BAY) ประเมินว่า โอกาสที่จะไม่เกิด Brexit หรืออังกฤษไม่แยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (EU) จากการลงประชามติในวันที่ 23 มิ.ย.นี้จะมีความเป็นไปได้มากกว่า ซึ่งหากอังกฤษตัดสินใจไม่แยกตัวออกจาก EU จะช่วยทำให้ลดปัจจัยเสี่ยงจากความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลกลงไปได้ปัจจัยหนึ่ง และทำให้เงินบาท รวมทั้งเงินปอนด์จะแข็งค่าขึ้นในช่วงระยะสั้นๆ
"เราให้น้ำหนักของการอยู่ต่อมากกว่า ซึ่งการอยู่ต่อ จะลดความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลกไป 1 ประเด็น ทำให้นักลงทุนทั่วโลกเกิดความสบายใจระดับหนึ่งในระยะเวลาสั้นๆ เพราะความไม่แน่นอนตรงนี้จะหมดไป จะทำให้เงินบาทกลับมาแข็งค่าตามสกุลเงินของตลาดเกิดใหม่อื่นๆ และเงินปอนด์แข็งค่า แต่เป็นช่วงสั้นๆ เพราะยังมีอีกหลายประเด็นที่นักลงทุนจับตามอง เช่น แนวโน้มการขึ้นดอกเบี้ยของสหรัฐในช่วงครึ่งปีหลัง" ผอ.ผู้บริหารกลุ่มวิเคราะห์ตลาดการเงิน BAY กล่าวกับ "อินโฟเควสท์"
แต่ทั้งนี้ หากเกิดกรณี Brexit หรืออังกฤษตัดสินใจแยกตัวออกจาก EU จะทำให้เงินบาทอ่อนค่าลงจากปัจจุบันไปอยู่ที่ประมาณ 35.75-36.00 บาท/ดอลลาร์ แต่คงเป็นปรากฎการณ์ระยะสั้นสำหรับเงินบาท เพราะเป็นเรื่องของ sentiment เนื่องจากปัจจัยพื้นฐานเศรษฐกิจของไทยเองยังไม่เปลี่ยนแปลง ประกอบกับปริมาณการค้าการลงทุนระหว่างไทยกับอังกฤษเองยังถือว่ามีสัดส่วนค่อนข้างน้อย นอกจากนี้ ผลที่จะตามมาหากเกิดกรณี Brexit คือจะทำให้ตลาดหุ้นในตลาดเกิดใหม่ถูกเทขาย เพราะนักลงทุนจะหลีกเลี่ยงสินทรัพย์เสี่ยง ในขณะที่เงินเยนจะมีแรงซื้ออย่างต่อเนื่อง เพราะถือว่าเป็นสินทรัพย์ที่มีความปลอดภัย
"ถ้าอังกฤษออกจากอียู เงินบาทจะปรับตัวอ่อนค่า และตลาดหุ้นในตลาดเกิดใหม่จะถูกเทขาย เพราะคนจะเลี่ยงสินทรัพย์เสี่ยง เป็นเรื่องของความไม่แน่นอน เพราะนักลงทุนทั่วโลกกำลังจับตาว่าเมื่อออกแล้ว จริงๆ ยังประเมินความเสียหายเป็นตัวเงินไม่ได้ แต่เชื่อว่าคงมหาศาล และจะเพิ่มความระส่ำระสายให้กับเศรษฐกิจโลกที่ปัจจุบันเปราะบางอยู่แล้ว" น.ส.รุ่ง กล่าว
แต่อย่างไรก็ดี สิ่งที่จะเกิดขึ้นอย่างชัดเจนในช่วงวันศุกร์ที่ 24 มิ.ย. คือความผันผวนที่จะเกิดขึ้นกับการซื้อขายทั้งในตลาดหุ้น ตลาดเงิน และตลาดพันธบัตรของภูมิภาคเอเชีย เนื่องจากการนับคะแนนผลการลงประชามติของอังกฤษจะมีขึ้นตรงกับช่วงเวลาเปิดการซื้อขายของตลาดการเงินในฝั่งเอเชีย ดังนั้นจึงเชื่อว่าความผันผวนจะเกิดขึ้นได้ตลอดทั้งวัน
"สิ่งที่ตลาดจะเห็นแน่ๆ คือความผันผวนในวันศุกร์ที่ 24 มิ.ย. เพราะผลการนับคะแนนจะเริ่มทยอยออกมาในวันที่ 24 บ้านเรา และตรงกับช่วงเวลาที่ตลาดการเงินในเอเชียเปิดการซื้อขาย วันศุกร์การซื้อขายจะผันผวนทั้งวัน เพราะขึ้นกับคะแนนที่จะออกมาในช่วงนั้นๆ ว่าอังกฤษออกหรืออยู่ต่อ ทั้งตลาดหุ้น ตลาดเงิน ตลาดพันธบัตร จะลุ้นผลนาทีต่อนาที" น.ส.รุ่งกล่าว
ทั้งนี้ มองว่าผลคะแนนในเมืองซันเดอร์แลนด์ จะเป็นตัวชี้ชะตาของการลงประชามติในครั้งนี้ เนื่องจากซันเดอร์แลนด์เป็นเมืองที่มีประชากรจำนวนมาก และเป็นเมืองลำดับต้นๆ ที่ผลคะแนนจะถูกนำออกมานับก่อน ซึ่งหากผลโหวตของซันเดอร์แลนด์ออกมาทิศทางใด ก็เชื่อว่าผลโหวตของอังกฤษทั้งประเทศจะออกมาในทิศทางเดียวกัน
"ตัวชี้วัดน่าจะเป็นซันเดอร์แลนด์ เพราะเป็นเมืองที่มีประชากรสูง และถูกนับคะแนนก่อน ถ้าผลออกมาว่าอยู่ต่อ ก็เชื่อว่าทั้งประเทศจะไม่พลิก คงเป็นไปตามนั้น" น.ส.รุ่ง ระบุ