บริษัท เอสแอนด์พี โกลบอล เรทติ้ง (S&P Global Ratings) สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือชั้นนำของโลก และบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด (ทริสเรทติ้ง) สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อชั้นนำของไทย ประกาศในวันนี้ถึงการบรรลุข้อตกลงในการที่ S&P Global Ratings เข้าถือหุ้น 49% ในทริสเรทติ้ง ซึ่งจะเป็นการยกระดับและกระชับความสัมพันธ์ของทั้งสองบริษัทให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น และเป็นนิมิตหมายอันดีต่อตลาดทุนของประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับสองในอาเซียน และมีตลาดพันธบัตรที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ในภูมิภาคอย่างประเทศไทย
นายศิริ การเจริญดี กรรมการ ทริสเรทติ้ง กล่าวว่า การร่วมทุนครั้งนี้จะเป็นการขยายขอบข่ายความร่วมมือให้กว้างขึ้น เนื่องจาก S&P Global Ratings เป็นบริษัทชั้นนำระดับโลกและเป็นองค์กรขนาดใหญ่ที่มีความเชี่ยวชาญสูง และการผนึกกำลังกันจะเป็นแรงผลักดันให้ทริสเรทติ้ง พัฒนาการให้บริการจัดอันดับความน่าเชื่อถือแก่ลูกค้าได้ครอบคลุมยิ่งขึ้น โดยเฉพาะกับลูกค้าในตลาดทุนไทยที่มีอัตราการเติบโตอย่างรวดเร็ว ขณะที่การเพิ่มขีดความสามารถในการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ จะเป็นหัวใจสำคัญที่ช่วยส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการพัฒนาตลาดพันธบัตรของภูมิภาค
"การผนึกกำลังกันจะเป็นแรงผลักดันให้ทริสเรทติ้งพัฒนาการให้บริการการจัดอันดับความน่าเชื่อถือแก่ลูกค้าได้ครอบคลุมยิ่งขึ้น โดยเฉพาะกับลูกค้าในตลาดทุนไทยที่มีอัตราการเติบโตอย่างรวดเร็ว ในขณะที่ S&P Global Ratings จะได้รับประโยชน์จากความรู้ ความเข้าใจในเชิงลึกของทริสเรทติ้งต่อประเทศไทยและประเทศเพื่อนบ้านให้ดียิ่งขึ้นอีกด้วย"นายศิริ กล่าว
นายศิริ กล่าวอีกว่า สำหรับมุมมองต่อเศรษฐกิจไทยนั้น ขณะนี้อยู่ในช่วงของการปรับตัวต่อเนื่องมาหลายปี หลังจากที่เศรษฐกิจไทยผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว โดยคาดว่าเศรษฐกิจไทยน่าจะเห็นการปรับตัวดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดในสิ้นปีนี้ จากการเร่งเบิกจ่ายงบประมาณของภาครัฐ และการลงทุนของภาครัฐ ที่เริ่มเห็นผลชัดเจนขึ้น ซึ่งก็จะส่งผลกระตุ้นต่อการลงทุนภาคเอกชน และการบริโภคภาคเอกชนให้ดีขึ้นตามลำดับ ตลอดจนการฟื้นตัวของภาคการส่งออกด้วย
"เศรษฐกิจไทยถึงจุดต่ำสุดแล้ว และน่าจะค่อยๆฟื้นตัวดีขึ้น โดยต้องมีแรงผลักดันจากการลงทุนภาครัฐ ภาคเอกชน ,การบริโภคภาครัฐ ภาคเอกชน และการส่งออก ซึ่งที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่าภาครัฐมีการใช้จ่ายมากขึ้น ผ่านการดำเนินนโยบายต่าง ๆ เพื่อส่งเสริมกำลังซื้อ การอุปโภค บริโภค ทำให้เริ่มเห็นผลชัดเจนแล้ว และน่าจะเป็นปัจจัยหนึ่งที่เศรษฐกิจไทยจะสามารถเทิร์นอะราวด์ได้ในสิ้นปีนี้"นายศิริ กล่าว
ด้านนายแมท บอสร็อค หัวหน้าตลาดกำลังพัฒนาระหว่างประเทศ S&P Global Ratings กล่าวว่า การเข้าร่วมทุนในทริสเรทติ้งครั้งนี้ แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นที่ S&P Global Ratings มีต่อทริสเรทติ้ง และเชื่อมั่นในการเติบโตของเศรษฐกิจไทยในระยะยาว รวมถึงตลาดทุนไทยที่จะสามารถเติบโตได้อีกมากในอนาคต
โดยบริษัทคาดหวังที่จะขยายขอบเขตการให้บริการการจัดอันดับความน่าเชื่อถือให้มากยิ่งขึ้น โดยมองว่าน่าจะเป็นโอกาสที่จะเห็นความร่วมมือในการจัดอันดับในธุรกิจประกัน ,ธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) และกอง ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริทรัพย์ (REIT) ในประเทศไทยมากขึ้น รวมถึงการลงทุนครั้งนี้ยังจะเพิ่มประสิทธิภาพการวิเคราะห์และศึกษาวิจัยตลาดไทยและตลาดอาเซียนให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้นอีกด้วย
S&P Global Ratings มีการลงทุนทั่วโลกรวมกว่า 26 ประเทศ และ 12 ประเทศในทวีปเอเชีย และยังคงมองหาโอกาสที่จะขยายไปยังประเทศอื่น ๆ อีก โดยปัจจุบันมีการจัดอันดับความน่าเชื่อถือบริษัทในไทย 18-20 บริษัท และทริสเรทติ้ง มีการจัดอันดับความน่าเชื่อถือราว 170 บริษัท