นายสมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า จากการหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องถึงแนวทางการจ่ายเงินในโครงการสนับสนุนต้นทุนการผลิตให้แก่เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต 2559/60 ไร่ละ 1,000 บาท รายละไม่เกิน 10 ไร่ วงเงินรวม 37,800 ล้านบาท ตามมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต 2559/60 ที่ผ่านความเห็นชอบจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) นั้น เบื้องต้นจะให้ใช้ข้อมูลการขอสินเชื่อของเกษตรกรผู้ปลูกข้าวจากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) มาเป็นข้อมูลในการพิจารณาการให้สิทธิตามโครงการดังกล่าว ซึ่งเชื่อว่าจะทำให้ได้เกษตรกรตัวจริง
"ข้อสรุปในเบื้องต้น คือจะให้กับชาวนาตัวจริงเท่านั้น และจะให้ก่อนที่จะมีการเพาะปลูก เพื่อใช้เป็นเงินทุนในการผลิต โดยเป็นการวางกรอบการดำเนินการร่วมกับกับกระทรวงการคลัง ธ.ก.ส. กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รวมถึงมหาดไทย ซึ่งรอบนี้หลักการเดิมเรื่องการขึ้นทะเบียนคงใช้ไม่ได้ เพราะเป้าหมายของโครงการชัดเจนคือต้องเป็นเกษตรกรผู้ปลูกข้าวที่แท้จริง" ปลัดกระทรวงการคลังกล่าว
พร้อมระบุว่า หลังจากพิจารณาการให้สิทธิตามข้อมูลการขอสินเชื่อจาก ธ.ก.ส.แล้ว จะต้องมีการตรวจสอบความถูกต้องอีกรอบ โดยการส่งข้อมูลไปยังกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้มีการทำประชาคมตำบลเพื่อเป็นการตรวจสอบว่าเกษตรกรรายดังกล่าวเตรียมการเพาะปลูกข้าวจริง หากเป็นตัวจริงจะมีการติดประกาศรายชื่อไว้เป็นเวลา 15 วัน ซึ่งหากไม่มีข้อทักท้วงใดๆ เกษตรกรรายดังกล่าวก็สามารถเดินทางไปรับเงินได้ที่ ธ.ก.ส. โดยจะต้องมีการกรอกเอกสารอีกครั้งเพื่อเป็นการยืนยันข้อมูลอีกครั้ง
ปลัดกระทรวงการคลัง ยืนยันว่า กระบวนการดังกล่าวจะใช้เวลาไม่นาน โดยเงินจะส่งถึงมือของเกษตรกรเพื่อใช้เป็นต้นทุนการผลิตได้ภายในเดือน ก.ค.-ส.ค.59 โดยเบื้องต้นจะใช้งบประมาณจาก ธ.ก.ส.ไปก่อน หลังจากนั้นจะมีการตั้งงบประมาณชดเชยให้ในปีงบประมาณ 2561