นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สิ่งที่เกิดขึ้นกรณีของผลการทำประชามติของอังกฤษเกี่ยวกับการถอนตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) เป็นสิ่งที่คาดคะเนไว้แล้วว่าวันนี้จะมาถึง และได้มีการหารือกับ รมว.คลัง ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เตรียมการไว้แล้วเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน
"อย่ากังวล เรื่องการเงินระยะสั้นอาจจะผันผวนบ้าง แต่ธปท.ได้มีการเตรียมการไว้แล้ว อาจจะมีคำแนะนำบางอย่างออกมา ส่วนเรื่องตลาดทุนมองว่าเป็นเรื่องปกติ อย่าไปตื่นตกใจมาก คงใช้เวลาปรับตัวสักพักนึง ด้านการค้าอาจจะไม่กระทบมาก เพราะเราทำการค้ากับอังกฤษไม่มากเท่าไหร่ หลังจากนี้การค้าโลกอาจจะมีการปรับตัว แต่จะส่งผลกระทบโดยตรงต่ออียู" นายสมคิด กล่าว
รองนายกรัฐมนตรี ยอมรับว่า กรณีดังกล่าวอาจเกิดผลกระทบให้เกิดความผันผวนในตลาดเงินในระยะสั้น ซึ่ง ธปท.ได้เตรียมมาตรการรองรับไว้ ซึ่งคงต้องรอดูว่าจะมีมาตรการอย่างไรออกมา ขณะที่สถาบันการเงินของไทยก็ได้เตรียมมาตรการรองรับไว้ล่วงหน้าเช่นกัน ส่วนผลกระทบที่เกิดขึ้นในตลาดทุนนั้นก็เป็นเรื่องปกติที่อาจเกิดความผันผวนได้
"กรณีนี้ส่งผลให้เงินปอนด์อ่อนค่าลง ดอลลาร์แข็งค่าขึ้น แต่หากเงินบาทเทียบกับดอลลาร์ เงินบาทจะอ่อนค่าลง ผลกระทบด้านการค้าระหว่างไทยกับอียูมีสัดส่วนไม่มากนัก แต่ในระยะยาวการค้าระดับแมคโครอาจจะปรับตัวลงไป เรื่องนี้เกิดผลกระทบโดยตรงกับอียูมากกว่า" นายสมคิด กล่าว
ส่วนกรณีที่มีการตั้งข้อสังเกตุว่ากรณีดังกล่าวอาจเป็นบทเรียนให้กับการรวมกลุ่มประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) นั้น นายสมคิด กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกัน เพราะหากเออีซีไม่รวมตัวกันก็จะไม่มีอำนาจต่อรองกับประชาคมโลก ส่วนการรวมตัวของอียูนั้นมีมานาน และเป็นเรื่องภายในที่ต้องดูแลกันเอง