นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง แถลงข่าวฐานะการคลังของรัฐบาลตามระบบกระแสเงินสดในช่วง 8 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2559 (ตุลาคม 2558 – พฤษภาคม 2559) ว่า รัฐบาลมีรายได้นำส่งคลังทั้งสิ้น 1,463,570 ล้านบาท สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้ว 176,031 ล้านบาท (คิดเป็นร้อยละ 13.7) ซึ่งมีสาเหตุหลักมาจากการนำส่งรายได้จากการประมูลใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ย่าน 900 และ 1800 MHz (4G) การรับรู้เงินส่วนเกินจากการจำหน่ายพันธบัตรเป็นรายได้และการจัดเก็บภาษีน้ำมันที่สูงกว่าช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว
ในขณะที่การเบิกจ่ายเงินงบประมาณมีจำนวนทั้งสิ้น 1,983,892 ล้านบาท รัฐบาลได้กู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุล 366,761 ล้านบาท ส่งผลให้เงินคงคลัง ณ สิ้นเดือนพฤษภาคม 2559 มีจำนวนทั้งสิ้น 184,148 ล้านบาท
“การเร่งรัดเบิกจ่ายงบประมาณของรัฐบาลในช่วง 8 เดือนแรกได้กว่า 1.9 ล้านล้านบาท ซึ่งสูงกว่าช่วงเดียวกันของปีที่แล้วถึงร้อยละ 8.4 ได้สะท้อนถึงบทบาทของรัฐบาลในการดำเนินนโยบายงบประมาณแบบขาดดุลและมาตรการการใช้จ่ายของภาครัฐในการกระตุ้นเศรษฐกิจในด้านต่างๆ ซึ่งสนับสนุนให้เศรษฐกิจขยายตัวอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา และคาดว่าการเร่งรัดเบิกจ่ายงบประมาณในช่วงที่เหลือของปีงบประมาณจะช่วยให้เศรษฐกิจขยายตัวได้ตามที่คาดไว้"โฆษกกระทรวงการคลัง กล่าว
ในเดือนพฤษภาคม 2559 รัฐบาลขาดดุลเงินสดจำนวน 29,508 ล้านบาท โดยเป็นการเกินดุลเงินงบประมาณ 46,794 ล้านบาท ในขณะที่ดุลเงินนอกงบประมาณขาดดุล 76,302 ล้านบาท ส่งผลให้ในช่วง 8 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2559 รัฐบาลขาดดุลเงินสดจำนวน 608,795 ล้านบาท ทั้งนี้ รัฐบาลได้กู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุลจำนวน 366,761 ล้านบาท ส่งผลให้เงินคงคลัง ณ สิ้นเดือนพฤษภาคม 2559 มีจำนวน 184,148 ล้านบาท