นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง ในฐานะผู้ว่าการของไทยได้เข้าร่วมการประชุมสภาผู้ว่าการประจำปีของธนาคารเพื่อการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานเอเชีย ครั้งที่ 1 (1st Asian Infrastructure Development Bank (AIIB) Board of Governors’ Annual Meeting) เมื่อวันที่ 25-26 มิ.ย.59 ณ กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน มีผู้แทนจากประเทศสมาชิกเข้าร่วมการประชุมทั้งสิ้น 57 ประเทศ ในจำนวนนี้เป็นประเทศที่ให้สัตยาบันแล้วจำนวน 46 ประเทศ รวมถึงประเทศไทย
ในการประชุมสภาผู้ว่าการประจำปีของธนาคารเพื่อการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานเอเชีย เมื่อวันที่ 25 มิ.ย.59 มีนาย Zhang Gaoli รองนายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐประชาชนจีน เป็นผู้กล่าวเปิดการประชุม และนาย Lou Jiwei รมว.คลัง สาธารณรัฐประชาชนจีนเป็นประธาน โดยสภาผู้ว่าการได้รับทราบรายงานความก้าวหน้าในการดำเนินงานและงบประมาณประจำปี ค.ศ.2016
รวมถึงรับทราบโครงการเงินกู้ที่ผ่านความเห็นชอบของคณะกรรมการธนาคารชั่วคราว (Interim Board of Directors : BODs) แล้วจำนวน 4 โครงการ ได้แก่ โครงการเงินกู้แก่ประเทศปากีสถาน, ทาจิกิสถาน, อินโดนีเซีย และบังคลาเทศ ประกอบด้วย การร่วมลงทุน (Co-finance) กับธนาคารพัฒนาเอเชียในโครงการก่อสร้างทางมอเตอร์เวย์ การร่วมลงทุนกับธนาคารยุโรปสำหรับการพัฒนาและการบูรณะในการพัฒนาเส้นทางบริเวณรอยต่อชายแดน การร่วมลงทุนกับธนาคารโลกในโครงการยกระดับคุณภาพชีวิตในชุมชนแออัด และการลงทุนในโครงการพัฒนาและขยายระบบจ่ายพลังงาน รวมมูลค่าโครงการทั้งสิ้น 509 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงจุดเริ่มต้นของความร่วมมือระหว่างองค์กรระหว่างประเทศต่างๆ ในการเติมเต็มความต้องการด้านการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานของประเทศสมาชิกต่อไปในอนาคต
นอกจากนี้ ที่ประชุมสภาผู้ว่าการในครั้งนี้ ยังได้มีการเลือกตั้งคณะกรรมการธนาคารชุดแรกอย่างเป็นทางการรวม 11 ตำแหน่ง ประกอบด้วย กรรมการจากสมาชิกภายในภูมิภาค 9 ตำแหน่ง ได้แก่ ผู้แทนจากสาธารณรัฐประชาชนจีน, อินเดีย, รัสเซีย, สาธารณรัฐเกาหลี, ออสเตรเลีย, อินโดนีเซีย, ตุรกี, ซาอุดิอาระเบีย และไทย และกรรมการจากสมาชิกภายนอกภูมิภาค 2 ตำแหน่ง ได้แก่ ผู้แทนจากสหราชอาณาจักร และเยอรมนี เพื่อทำหน้าที่กำกับดูแลการดำเนินงานของฝ่ายบริหารให้เป็นไปตามแนวนโยบายที่สภาผู้ว่าการได้ให้แนวทางไว้
ไม่ว่าจะเป็นการดำเนินการเพื่อตอบสนองต่อความต้องการของกลุ่มประเทศสมาชิกที่มีข้อจำกัดด้านศักยภาพทางเศรษฐกิจให้สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนอย่างสมดุล การร่วมมือกับธนาคารเพื่อการพัฒนาในระดับพหุภาคีอื่นๆ เช่น ธนาคารโลก และธนาคารพัฒนาเอเชีย ฯลฯ ในการร่วมลงทุนที่มุ่งเน้นด้านโครงสร้างพื้นฐานที่นำไปสู่ความเชื่อมโยงทางเศรษฐกิจ และลดความเหลื่อมล้ำภายในภูมิภาค และการพัฒนาระบบการดำเนินงานให้มีความคล่องตัวและมีประสิทธิภาพ รวมถึงโครงสร้างระบบธรรมาภิบาลที่เน้นการเปิดเผยข้อมูลและความโปร่งใสตามมาตรฐานของธนาคารเพื่อการพัฒนาในระดับพหุภาคีอื่นๆ ในระดับสากลต่อไป
ส่วนวันที่ 26 มิ.ย.59 ธนาคาร AIIB ได้จัดการสัมมนาในหัวข้อ Infrastructure and Global Economic Growth และหัวข้อ Financing Green Infrastructure: The Role of Multilateral Development Banks (MDBs) ซึ่งได้มีการหารือถึงบทบาทและความสำคัญของการพัฒนาความเชื่อมโยงของโครงสร้างพื้นฐานที่ถือเป็นหนึ่งในปัจจัยหลักในการส่งเสริมการเติบโตของเศรษฐกิจโลกในระยะยาว โดยบริษัทที่ปรึกษา McKinsey ได้ประมาณการว่าในช่วง 15 ปีข้างหน้าประเทศต่างๆ ทั่วโลกยังมีความต้องการการลงทุนในด้านโครงสร้างพื้นฐานอีกกว่า 57 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ เพื่อรักษาระดับการเติบโตของเศรษฐกิจโลกต่อไป ซึ่งธนาคารเพื่อการพัฒนาในระดับพหุภาคีต่างๆ ถือเป็นหนึ่งในกลไกที่จะมีบทบาทในการผลักดันความร่วมมือและการเชื่อมโยงระหว่างความต้องการและแหล่งเงินทุน
นอกจากนี้ ธนาคารเพื่อการพัฒนาเหล่านี้ยังมีบทบาทสำคัญในการควบคุมและกำกับดูแลให้โครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่เกิดขึ้นนั้นเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งแม้ว่าการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมนั้น จะส่งผลให้ต้นทุนการดำเนินการโครงการสูงขึ้นอย่างน้อยร้อยละ 6 การส่งเสริมการดำเนินโครงการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เช่น ผลิตภัณฑ์เงินกู้เฉพาะสำหรับการลงทุนที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (Green Credit Loans) พันธบัตร และเงินสนับสนุนในรูปแบบต่างๆ เพื่อสนับสนุนการดำเนินการให้บรรลุตามเป้าหมายของอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (UN Framework Convention on Climate Change (UNFCCC) หรือ COP21 จะเป็นประโยชน์ต่อระบบเศรษฐกิจในระยะยาวและถือเป็นพันธกิจที่สำคัญและจำเป็นสำหรับการส่งเสริมการเติบโตของเศรษฐกิจโลกอย่างยั่งยืน
อนึ่ง ธนาคาร AIIB ได้เริ่มเปิดดำเนินการอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 16 ม.ค.59 โดยมีนาย Jiin Liqun ดำรงตำแหน่งเป็นประธานธนาคาร (President) ในส่วนของประเทศไทยได้เข้าเป็นสมาชิกโดยสมบูรณ์ภายหลังการส่งมอบสัตยาบันสารเมื่อวันที่ 20 มิ.ย.59 พร้อมกันนี้ นายบุญชัย จรัสแสงสมบูรณ์ ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจระหว่างประเทศ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะผู้แทนของประเทศไทยได้รับเลือกตั้งให้ดำรงตำแหน่งกรรมการธนาคารในนามกลุ่มออกเสียงของไทย ซึ่งประกอบด้วย ประเทศไทย ฟิลิปปินส์ บังคลาเทศ มาเลเซีย เนปาล และมัลดีฟส์ ซึ่งคณะกรรมการชุดนี้ถือเป็นคณะกรรมการชุดแรกอย่างเป็นทางการของธนาคาร AIIB โดยจะมีวาระการดำรงตำแหน่งเป็นเวลา 2 ปี