การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) ร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง 4 องค์กร ประกอบด้วย สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (สำนักงาน กสทช.) ,กรุงเทพมหานคร (กทม.) ,บมจ.ทีโอที และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ร่วมลงนามประสานความร่วมมือเดินหน้าโครงการเปลี่ยนระบบสายไฟฟ้าและสายสื่อสารโทรคมนาคมแบบสายอากาศเป็นระบบสายใต้ดิน เพื่อรองรับการเป็นมหานครแห่งอาเซียน
นายกฤษฎา บุญราช ประธานกรรมการ กฟน. กล่าวว่า กฟน.ในฐานะที่เป็นองค์กรชั้นนำด้านธุรกิจพลังงานไฟฟ้าในระดับสากล ที่มีความมุ่งมั่นพัฒนาการจำหน่ายไฟฟ้าให้กับประชาชนอย่างเพียงพอ มีความมั่นคง และคำนึงถึงความปลอดภัยในระบบไฟฟ้า พร้อมทั้ง ให้ความสำคัญกับการปรับทัศนียภาพให้มีความสวยงาม ตอบสนองตามนโยบายของภาครัฐบาล จึงได้ดำเนินโครงการเปลี่ยนระบบสายไฟฟ้าอากาศเป็นระบบสายไฟฟ้าใต้ดินอย่างต่อเนื่อง
โดยที่ผ่านมากฟน. มีความจำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือจากหน่วยงานต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการประสานงานกับกทม.เพื่ออำนวยความสะดวกในการใช้พื้นที่ดำเนินโครงการฯ การประสานงานกับตำรวจเพื่อแก้ไขปัญหาการจราจรในพื้นที่ก่อสร้าง ตลอดจนการแก้ไขปัญหาสายสื่อสาร ที่มีหน่วยงานอย่าง สำนักงาน กสทช. และทีโอที เป็นผู้รับผิดชอบ ดังนั้น ความร่วมมือในครั้งนี้ จึงมีวัตถุประสงค์เพื่อแสดงเจตนารมณ์ร่วมกันที่จะปรับปรุงภูมิทัศน์ของกทม. ด้วยการเปลี่ยนระบบจ่ายกระแสไฟฟ้าและสายสื่อสารโทรคมนาคมให้กับประชาชนในพื้นที่ของกทม. โดยการดำเนินโครงการเปลี่ยนระบบสายไฟฟ้าอากาศเป็นสายไฟฟ้าใต้ดิน และนำสายสื่อสารโทรคมนาคมที่อยู่ในพื้นที่โครงการฯลงใต้ดินทั้งหมด เพื่อให้กทม.มีภาพลักษณ์ที่ดี สวยงาม และเหมาะสมกับการเป็นมหานครแห่งอาเซียน
ในด้านบทบาทการดำเนินโครงการฯ ของแต่ละหน่วยงาน กฟน.จะเป็นผู้รับผิดชอบในการดำเนินการก่อสร้างเพื่อเปลี่ยนระบบการจ่ายกระแสไฟฟ้า โดยกทม.จะเป็นผู้ให้การสนับสนุนการบริหารจัดการปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น และมีผลกระทบต่อประชาชนในระหว่างการดำเนินการก่อสร้าง ขณะที่สตช.จะให้การสนับสนุนการบริหารจัดการ วิเคราะห์และแก้ไขปัญหาการจราจรที่เกิดขึ้นระหว่างการดำเนินโครงการฯ เพื่อให้การจราจรเกิดความคล่องตัว และประชาชนได้รับผลกระทบจากปัญหาการจราจร น้อยที่สุด
นอกจากนี้ สำนักงาน กสทช. จะเป็นผู้ให้การสนับสนุนการบริหารจัดการ และกำหนดนโยบายให้ผู้ประกอบการดำเนินการนำสายสื่อสารทั้งหมดลงใต้ดิน โดยมีทีโอที เป็นผู้รับผิดชอบการดำเนินการก่อสร้างเพื่อรองรับการนำสายสื่อสารทั้งหมดลงใต้ดินสำหรับขอบเขตความร่วมมือในครั้งนี้ ประกอบด้วย โครงการเปลี่ยนระบบสายไฟฟ้าอากาศเป็นสายไฟฟ้าใต้ดินที่ กฟน. กำลังดำเนินการอยู่ ได้แก่ จิตรลดา ปทุมวัน และพญาไท (เพิ่มเติม) นนทรี พระราม 3 รัชดาภิเษก-พระราม 9 รวมถึงโครงการเปลี่ยนระบบสายไฟฟ้าอากาศเป็นระบบสายไฟฟ้าใต้ดินของ กฟน. ระยะที่ 1 รวม 127.3 กิโลเมตร วงเงินลงทุน 48,717 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นโครงการระยะยาว 10 ปี (2559-2568)
ทั้งนี้ การได้รับความร่วมมือ และการสนับสนุนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะเป็นกลไกสำคัญที่ทำให้การดำเนินงานต่างๆ เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ มีการบูรณาการแผนพัฒนาสาธารณูปโภคต่าง ๆ ในภาพรวมเพื่อให้การดำเนินการเป็นเอกภาพ ไม่เกิดความซ้ำซ้อน และเกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชน
นายก่อกิจ ด่านชัยวิจิตร รองเลขาธิการ กสทช. สายงานกิจการโทรคมนาคม กล่าวว่า สำนักงาน กสทช. จะประสานงานในส่วนที่เกี่ยวข้องกับหน่วยงานต่าง ๆ ที่ให้บริการท่อร้อยสาย และสร้างท่อร้อยสาย เพื่อหาทางออก ในการนำสายสื่อสารลงใต้ดิน ในพื้นที่กรุงเทพฯ จังหวัดเชียงใหม่ และภูเก็ต เนื่องจากเป็นจังหวัดใหญ่ มีประชากรอาศัยอยู่จำนวนมาก และเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญ โดยการดำเนินการที่ผ่านมาได้มีการนำสายสื่อสารโทรคมนาคมลงใต้ดินในพื้นที่ห้าแยกลาดพร้าวถึงอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิซึ่งเป็นย่านธุรกิจที่สำคัญของกรุงเทพฯ
โครงการดังกล่าวเป็นการร่วมมือกับทุกภาคส่วน เพื่อรองรับการบริการต่าง ๆ ทั้งสายโทรศัพท์ และสายใยแก้วนำแสง (ไฟเบอร์ออฟติค) อีกทั้งเป็นการปรับปรุงทัศนียภาพของบ้านเมืองให้สวยงาม และเสริมสร้างความปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน เหมาะสมกับเป็นมหานครแห่งอาเซียน