นางดวงพร รอดพยาธิ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า คณะกรรมการนโยบายและบริการจัดการข้าว (นบข.) เห็นชอบให้กรมการค้าต่างประเทศ ออกประกาศเปิดจำหน่ายข้าวสารในสต็อกของรัฐให้กับภาคเอกชนที่มีคำสั่งซื้อจากต่างประเทศ เพื่อส่งออกต่างประเทศ ปริมาณ 2.18 ล้านตัน ซึ่งเป็นข้าวมีคุณภาพที่สามารถปรับปรุงเพื่อการส่งออกได้ ประกอบด้วย 17 ชนิด ได้แก่ ข้าวหอมมะลิ 100% ชั้น 2, ข้าวหอมจังหวัด, ข้าวขาว 5%, ข้าวขาว 10%, ข้าวขาว 15%, ข้าวขาว 25% เลิศ, ข้าวปทุมธานี, ข้าวปทุมธานี 5%, ข้าวเหนียวขาว 10%, ข้าวท่อนหอมมะลิ, ข้าวท่อนหอมจังหวัด, ข้าวท่อนปทุมธานี, ปลายข้าวหอมมะลิ, ปลายข้าวหอมจังหวัด, ปลายข้าวปทุมธานี, ปลายข้าวเอวัน เลิศ และปลายข้าวเอวัน ใน 139 คลัง
ทั้งนี้ กรมการค้าต่างประเทศจะเชิญผู้สนใจเข้าร่วมรับฟังเงื่อนไขการจำหน่าย (TOR) ในวันที่ 1 ก.ค.นี้ เวลา 10.00 น. ณ กรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ และกำหนดให้ผู้ประกอบการในประเทศที่มีคำสั่งซื้อจากต่างประเทศยื่นซองเอกสารคุณสมบัติผู้เสนอซื้อ วันที่ 21 ก.ค. และยื่นซองเสนอราคาซื้อวันที่ 25 ก.ค. โดยจะประกาศรายชื่อผู้เสนอราคาซื้อสูงสุดในแต่ละคลังวันที่ 29 ก.ค. พร้อมแจ้งนัดหมายให้มาเจรจาต่อรองกับคณะทำงานดำเนินการระบายข้าวในสต็อกของรัฐ ด้วยความโปร่งใสทุกขั้นตอน โดยผู้ที่ได้รับอนุมัติการจำหน่ายจากประธานกรรมการ นบข. ต้องรับมอบข้าวจากคลังไปปรับปรุงส่งออกตามเวลาที่กำหนด และต้องส่งรายงาน พร้อมแสดงเอกสารหลักฐานการส่งออกตามเงื่อนไขที่ประกาศกำหนดด้วย
"การเปิดขายตรงให้ผู้ส่งออกที่มีคำสั่งซื้อจากต่างประเทศครั้งนี้ เพราะนบข.เห็นว่าสถานการณ์ข้าวในต่างประเทศขณะนี้ ปริมาณผลผลิตไม่เพียงพอกับปริมาณความต้องการ เนื่องจากประเทศผู้ผลิตข้าวรายใหญ่ของโลกมีผลผลิตลดลง ประกอบกับ ผลผลิตข้าวฤดูกาลใหม่ของไทยกำลังจะทยอยออกสู่ตลาด จึงจำเป็นต้องเร่งระบายข้าวในสต็อก เพื่อไม่ให้กระทบระดับราคาข้าวและราคาที่เกษตรกรจะได้รับ จึงเป็นจังหวะที่เหมาะสมที่จะนำข้าวในสต็อกออกมาระบายสู่ตลาดต่างประเทศ เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายการเก็บรักษา และความเสื่อมสภาพของข้าว และผลักดันการส่งออกข้าวไทยให้เพิ่มมากขึ้น" อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ ระบุ