นางดวงพร รอดพยาธิ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า กรมฯ เตรียมประกาศหลักเกณฑ์และเงื่อนไข (ทีโออาร์) การระบายข้าวในสต๊อกรัฐบาลในกลุ่มข้าวเสื่อมเพื่อเข้าสู่ภาคอุตสาหกรรม ตั้งแต่อาหารสัตว์ เอทานอล ปุ๋ย เป็นต้น ปริมาณราว 400,000 ตัน โดยจะประกาศทีโออาร์วันที่ 6 ก.ค. และจะชี้แจงเงื่อนไขการประมูลวันที่ 8 ก.ค. โดยจะเปิดให้เอกชนดูสภาพข้าวในโกดังระหว่างวันที่ 11-15 ก.ค. และเปิดให้ยื่นซองเสนอคุณสมบัติวันที่ 21 ก.ค. ก่อนที่จะเปิดให้ยื่นซองเสนอราคาวันที่ 25 ก.ค.
ส่วนการชี้แจงเงื่อนไขการเปิดให้เอกชนที่มีคำสั่งซื้อข้าวจากต่างประเทศมายื่นซื้อข้าวปริมาณ 2.18 ล้านตันนั้น ผู้จะเข้าร่วมต้องเป็นเอกชนที่จดทะเบียนเป็นผู้ส่งออกข้าวกับกรมฯ มีคำสั่งซื้อข้าวมาเสนอ ซื้อแบบยกคลัง และต้องหลักฐานการส่งออกมาแสดงภายใน 30 วัน นับตั้งแต่มีการขนข้าวออกจากคลังออกไป ไม่เช่นนั้นจะไม่คืนเงินค้ำประกันให้
หลักเกณฑ์จะคล้ายกับการประมูลข้าว แต่จะไม่เปิดเผยราคา เพราะเป็นความลับทางการค้า ใครเสนอราคาสูงสุดในแต่ละคลัง จะเชิญมาต่อรองราคา ก่อนสรุปผลเสนอคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) อนุมัติต่อไป เชื่อว่า น่าจะมีผู้สนใจเข้าร่วม และไม่กระทบกับราคาตลาดข้าว เพราะประเมินแล้วว่าช่วงนี้มีความต้องการข้าวมาก ส่วนราคาที่ขายได้น่าจะใกล้เคียงกับราคาที่อนุมัติขายครั้งก่อน เพราะเป็นข้าวคุณภาพใกล้เคียงกัน
"การประมูลข้าวเสื่อมเข้าอุตสาหกรรมจะทำควบคู่ไปกับการระบายข้าวผ่านเกณฑ์มาตรฐานปริมาณ 2.18 ล้านตัน ที่จะเปิดให้ยื่นซองเสนอราคาวันที่ 25 ก.ค.นี้ ซึ่งมองว่าช่วงนี้เป็นจังหวะเหมาะสม ตลาดข้าวมีความต้องการ เพราะข้าวนาปรังแทบจะไม่มีผลผลิตออกมา จากปัญหาภัยแล้ง ส่วนข้าวนาปี ปี 59/60 เลื่อนการเพาะปลูกจากปกติในเดือน ส.ค.ออกไปอีก ทำให้ภายใน 1-2 เดือนนี้ยังระบายข้าวสต๊อกรัฐได้ คาดว่าปีนี้น่าจะระบายข้าวได้มากกว่า 6 ล้านตัน และน่าจะระบายออกจากสต๊อกได้ทั้งหมดภายในกลางปี 60" นางดวงพร กล่าว