นายมนัส แจ่มเวหา อธิบดีกรมบัญชีกลาง เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการร่วมมือระหว่างกรมบัญชีกลางกับสำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ (สทบ.) เพื่อพัฒนาศักยภาพกองทุนหมู่บ้านหรือชุมชนให้มีความเข้มแข็ง มีประสิทธิภาพ และคุณสมบัติตามหลักเกณฑ์การขอรับจัดสรรเงินตามโครงการเพิ่มความเข้มแข็งของเศรษฐกิจฐานรากตามแนวทางประชารัฐ วงเงิน 35,000 ล้านบาท และมีความพร้อมที่จะได้รับการสนับสนุนเงินจากรัฐบาลในอนาคต เพื่อเป็นการยกระดับกองทุนหมู่บ้าน หรือชุมชนเมืองทุกแห่งให้มีมาตรฐานเท่าเทียมกัน
ทั้งนี้ กรมบัญชีกลางอยู่ระหว่างการจัดทำ VDO ให้ความรู้เกี่ยวกับระบบบัญชีฯ และการตรวจสอบภายใน พร้อมทั้งจะจัดประชุมชี้แจงเกี่ยวกับการจัดทำบัญชี และการตรวจสอบภายใน ให้กับบุคลากรของคลังเขตและคลังจังหวัด ในช่วงประมาณกลางเดือนกรกฎาคมนี้ เพื่อนำไปถ่ายทอดให้กับบุคลากรของ สทบ. ภาคีเครือข่าย และอาสาประชารัฐ ให้มีความรู้ ความเข้าใจ ในระบบบัญชีฯ และการตรวจสอบภายใน พร้อมทั้งให้คำปรึกษาแนะนำ กำกับดูแล ติดตามประเมินผลการดำเนินงาน ให้สามารถปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เหมาะสม โปร่งใส ตรวจสอบได้ เป็นมาตรฐานเดียวกันทั่วประเทศ
นอกจากนี้ จะจัดทำ VDO เกี่ยวกับการติดตาม ประเมินผล เพื่อใช้ในการประเมินความสำเร็จของการดำเนินงานตามโครงการฯ ให้สามารถปฏิบัติงานได้อย่างถูกต้อง มีความโปร่งใส ตอบสนองความต้องการของประชาชนในพื้นที่ สร้างความเข้มแข็งและยั่งยืนให้กับหมู่บ้านและชุมชนเมือง โดยกรมบัญชีกลางได้มอบหมายให้คลังจังหวัดลงพื้นที่ เพื่อสำรวจผลการดำเนินงานว่าประชาชนในพื้นที่มีส่วนร่วมในการพัฒนา และโครงการดังกล่าวฯ ตอบสนองความต้องการของประชาชนในพื้นที่หรือไม่
อธิบดีกรมบัญชีกลาง กล่าวเพิ่มเติมว่า การดำเนินการงานตามโครงการฯ ในครั้งนี้ ถือเป็นความร่วมมือครั้งสำคัญที่เปิดทางไปสู่มิติใหม่ของการกำกับดูแล ส่งเสริมการดำเนินงานของทุนหมุนเวียน เพื่อให้การดำเนินงานของทุนหมุนเวียนเป็นกลไกหลักที่สำคัญที่ตอบสนองความต้องการของรัฐบาลอย่างแท้จริง ส่งผลให้ประชาชนสามารถเข้าถึงการบริการของภาครัฐ ได้สะดวกและเท่าเทียม พร้อมขับเคลื่อนอย่างเป็นระบบ สอดคล้องกับการปฏิรูปและแผนยุทธศาสตร์ 20 ปี ของรัฐบาล และแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12 ทั้งในแง่ของสังคมและเศรษฐกิจ ซึ่งจะเป็นโอกาสสำคัญในการวางรากฐานสู่อนาคต และถือเป็นความท้าทายอย่างยิ่งของกรมบัญชีกลาง
"เมื่อหมู่บ้านหรือชุมชนเมืองมีความเข้มแข็ง มีมาตรฐานเดียวกันทั่วประเทศ จะช่วยสนับสนุนและส่งเสริมให้ประชาชนมีโอกาสพัฒนาความเป็นอยู่และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ถือเป็นประโยชน์ในการส่งเสริมศักยภาพในการประกอบอาชีพและความเป็นอยู่ในหมู่บ้านหรือชุมชนเมืองให้ดีขึ้น สอดคล้องกับนโยบายรัฐบาล" นายมนัส กล่าว