ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ออกประกาศผ่อนคลายหลักเกณฑ์การโอนเงินออกนอกประเทศเพิ่มเติมตามแผนแม่บทเงินทุนเคลื่อนย้ายระหว่างประเทศ รวมทั้งผ่อนคลายหลักเกณฑ์การประกอบธุรกิจศูนย์บริหารเงิน
นางจันทวรรณ สุจริตกุล ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายตลาดการเงิน ธปท.เปิดเผยว่า การผ่อนคลายหลักเกณฑ์การลงทุนในหลักทรัพย์ต่างประเทศ ผ่อนคลายให้ผู้ลงทุนที่มีคุณสมบัติตามที่กำหนด (Qualified Investor) ซึ่งหมายความถึง บริษัทหรือบุคคลธรรมดาที่มีเงินฝากหรือเงินลงทุนในหลักทรัพย์รวมตั้งแต่ 100 ล้านบาทขึ้นไป สามารถลงทุนในหลักทรัพย์และอนุพันธ์ในต่างประเทศได้โดยไม่ผ่านตัวกลางในประเทศ เพื่อเพิ่มความคล่องตัวและกระจายความเสี่ยงในการลงทุน
โดยมีหลักเกณฑ์วงเงินการลงทุน ให้ส่งเงินออกไปลงทุน (flow) ไม่เกิน 5 ล้านดอลลาร์ สรอ.ต่อรายต่อปี สำหรับประเภทหลักทรัพย์นั้น ให้ลงทุนในหลักทรัพย์ต่างประเทศและอนุพันธ์ในประเทศสมาชิกอาเซียน หรือประเทศที่มีหน่วยงานกำกับดูแลเป็นสมาชิกของ IOSCO MMOU signatory A โดยสามารถดูรายชื่อประเทศได้จาก https://www.iosco.org หรือฝากเงินในประเทศดังกล่าว
ในกรณีที่ Qualified Investor ประสงค์ที่จะลงทุนโดยผ่านตัวกลางในประเทศ เช่น บริษัทหลักทรัพย์ ธนาคารพาณิชย์ หรือลงทุนผ่านผู้จัดการกองทุนส่วนบุคคล สามารถลงทุนเพิ่มเติมได้ตามเกณฑ์ ที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กำหนด เช่น ประเภทหลักทรัพย์หรือประเทศที่ให้ไปลงทุน และลงทุนได้ภายในวงเงินที่ได้รับจัดสรรจาก ก.ล.ต
นอกจากนี้ ธปท.ได้ผ่อนคลายหลักเกณฑ์การประกอบธุรกิจของศูนย์บริหารเงิน ขยายขอบเขตการบริหารเงินเพื่อให้ศูนย์บริหารเงินมีความคล่องตัวในการบริหารสภาพคล่องให้แก่บริษัทในเครือมากขึ้น โดยผ่อนคลายให้ศูนย์บริหารเงินระดมเงินโดยออกตราสารสกุลเงินตราต่างประเทศทั้งในประเทศและต่างประเทศ จากเดิมที่ศูนย์บริหารเงินสามารถกู้ยืมจากสถาบันการเงินเท่านั้น ซึ่งมิได้รวมถึงการระดมทุนผ่านตลาดทุน
อีกทั้ง ผ่อนคลายให้ศูนย์บริหารเงินลงทุนในตราสารสกุลเงินตราต่างประเทศที่ออกในประเทศได้เพิ่มเติมจากเดิมที่อนุญาตให้ลงทุนในตราสารที่ออกในต่างประเทศ เพื่อรองรับการที่ภาคเอกชนอาจจะมีการออกตราสารสกุลเงินตราต่างประเทศในไทยมากขึ้น
ทั้งนี้ การผ่อนคลายหลักเกณฑ์การลงทุนในหลักทรัพย์ต่างประเทศและการผ่อนคลายหลักเกณฑ์การประกอบธุรกิจของศูนย์บริหารเงิน จะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 20 และ 28 ก.ค.59 ตามลำดับ