นายอิสระ ว่องกุศลกิจ ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย แถลงผลการประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.)ว่า ที่ประชุม กกร.เห็นควรปรับลดประมาณการมูลค่าการส่งออกในปี 59 ลงมาเป็น -2.0% ถึง 0.0% จากเดิมที่ 0.0-2.0% ซึ่งไม่ต่ำมากจากที่หดตัว 1.9% ในช่วง 5 เดือนแรกของปี และน่าจะยังเป็นอัตราการหดตัวที่น้อยกว่าอีกหลายประเทศในภูมิภาค
กกร.เห็นว่า เศรษฐกิจโลกมีความเสี่ยงมากขึ้นหลังจากผลการลงประชามติของสหราชอาณาจักรสนับสนุนการออกจากการเป็นสมาชิกสหภาพยุโรป (BREXIT) เนื่องจากความไม่แน่นอนในรูปแบบความสัมพันธ์ระหว่างอังกฤษและอียู ซึ่งยังต้องรอกระบวนการเจรจาที่คงต้องใช้เวลานานพอสมควร ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจ และสร้างความผันผวนต่อตลาดการเงินทั่วโลก
"ภายใต้ความท้าทายของเศรษฐกิจโลกที่ยังคงมีอยู่ในระดับสูง ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อคำสั่งซื้อสินค้าจากไทย และทำให้การฟื้นตัวของการส่งออกอาจต้องใช้เวลามากกว่าที่คาด"
ทั้งนี้ แม้ว่าผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยจาก BREXIT น่าจะอยู่ในวงจำกัดในช่วงที่เหลือของปี 59 นี้ เนื่องจากความเชื่อมโยงทางการค้า การลงทุน และการท่องเที่ยว ของไทยกับ สหราชอาณาจักร มีสัดส่วนไม่มาก อีกทั้งเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของไทยยังค่อนข้างแข็งแกร่ง แต่กระบวนการในการเจรจาความสัมพันธ์ระหว่างสหราชอาณาจักรกับสหภาพยุโรปต่อจากนี้ยังคงใช้เวลาอีกพอสมควร จึงต้องติดตามความคืบหน้าจากประเด็น BREXIT นี้อย่างใกล้ชิด
กกร.มีมติให้ความเห็นชอบในการศึกษาความเป็นไปได้ ผลได้ผลเสียในการเจรจาการค้าเสรีระบบทวิภาคีกับประเทศสหราชอาณาจักร ภายใต้บริบทที่ประเทศสหราชอาณาจักรจะแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป
สำหรับภาวะเศรษฐกิจไทยโดยรวมในเดือน พ.ค.59 ยังคงได้รับแรงหนุนจากการใช้จ่ายของภาครัฐและการขยายตัวของการท่องเที่ยว รวมทั้งมีสัญญาณบวกที่ยอดขายรถยนต์เพิ่มขึ้นได้เป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกัน อย่างไรก็ตาม มูลค่าการส่งออกในเดือนพฤษภาคมและในช่วง 5 เดือนแรกของปีที่ยังคงหดตัว สะท้อนภาวะอุปสงค์ของคู่ค้าที่ยังอ่อนแอและกระทบการผลิตในภาคอุตสาหกรรม
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากการใช้จ่ายในประเทศเริ่มมีสัญญาณการฟื้นตัว ประกอบกับการใช้จ่ายของภาครัฐและการท่องเที่ยวยังคงขยายตัวต่อเนื่อง ที่ประชุมจึงยังคงกรอบประมาณการอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยในปี 59 ไว้ที่ 3.0-3.5% ตามเดิม