นางจีราวรรณ บุญเพิ่ม ประธานกรรมการบริหาร สำนักงานส่งเสริมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือซิป้า กล่าวว่า ซิป้ามีจุดยืนชัดเจนที่จะยืนหยัดอยู่คู่กับอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ไทย โดยเดินหน้าสร้างความมั่นใจให้กับผู้ประกอบการซอฟต์แวร์ด้วยการจับมือเป็นพันธมิตรร่วมกัน เพื่อให้เกิดโรดแมพในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลตามนโยบายของรัฐบาล โดยจะเดินหน้าไปตามแผนยุทธศาสตร์การส่งเสริมอุตสาหกรรมซอฟท์แวร์ พ.ศ.2560-2563 ที่มีการปรับปรุงใหม่ให้สัมฤทธิ์ผลโดยเร็วในลักษณะของการดำเนินงาน และการปฏิบัติงานเชิงรุกอย่างสร้างสรรค์ ด้วยการประสานงานกับหน่วยงานต่างๆ ทั้งองค์กรของรัฐ และเอกชน เพื่อให้เกิดการเชื่อมโยงในนโยบายและแผนยุทธศาสตร์ต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกันทั้งหมด และการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ไปในทิศทางเดียวกัน ทั้งด้านการพัฒนาบุคลากร ผู้ประกอบการ และพัฒนาตลาด โดยมุ่งเน้นการพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐานของเมืองไปพร้อมกันให้มีความทันสมัย ภายใต้โครงการ Smart City ที่ให้บรรยากาศเอื้อต่อการลงทุน และนำไปสู่การสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆป้อนอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ให้เติบโตสู่เศรษฐกิจดิจิทัล
สำหรับการดำเนินงานตามนโยบายของรัฐบาลที่จะขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยไปสู่เศรษฐกิจดิทัลนั้น ซิป้ามีการทบทวนแผนยุทธศาสตร์ด้วยการศึกษาข้อมูลแนวโน้มของเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วอยู่ตลอดเวลา ได้แก่ Mobile Apps, Cloud Computing, Social Media, Big Data เพื่อกำหนดทิศทางและนโยบายการสนับสนุนผู้ประกอบการซอฟต์แวร์ให้สอดคล้องกับสถานการณ์การเกิดใหม่ของเทคโนโลยี และพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว ขณะที่กลุ่มองค์กรธุรกิจต่างๆ มีการใช้ซอฟต์แวร์ประเภท Custom software ในสัดส่วนที่เพิ่มขึ้น และมีการพัฒนาใช้เองในประเทศ
ทั้งนี้การเจริญเติบโตของอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ไทยมีแนวโน้มขยายตัวเพิ่มขึ้น โดยมูลค่าตลาดการผลิตซอฟท์แวร์และบริการซอฟต์แวร์ในปี 2559 จากการสำรวจของสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศ (TDRI) คาดว่าจะมีมูลค่า 69,306 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากมูลค่า 47,123 ล้านบาทในปี 2556 คิดเป็นร้อยละ 17.1 โดยเฉพาะซอฟต์แวร์ประเภท Custom software มีมูลค่าสูงที่สุด โดยมีมูลค่า 16,164 ล้านบาท ในปี 2556 และมีมูลค่าถึง 17,540 ล้านบาทในปี 2557 เพิ่มขึ้นร้อยละ 8.5 และในส่วนของบริการซอฟต์แวร์ประเภทอื่นๆ ก็มีปริมาณมูลค่าและแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นตามลำดับโดยมีอัตราเติบโตรวมเป็นร้อยละ 9.1 ชี้ให้เห็นว่าเศรษฐกิจไทยพร้อมก้าวไปสู่เศรษฐกิจดิจิทัล
ประธานกรรมการบริหารซิป้า กล่าวว่า ซิป้าได้รับความไว้วางใจจากกระทรวงไอซีทีให้ดำเนินโครงการสำคัญในหลายมิติ อาทิ เป็นหน่วยงานนำร่องในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว และกำหนดให้มีโครงการสำคัญเพื่อกระจายรายได้อย่างทั่วถึงในแหล่งท่องเที่ยวสำคัญในระดับชุมชน และยกระดับผู้ประกอบการให้มีศักยภาพในการประกอบธุรกิจ รวมทั้งการพัฒนาบุคลากรสายซอฟต์แวร์ เพื่อป้อนสู่อุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ โดยซิป้ามีการผลักดันส่งเสริมสนับสนุน ก่อให้เกิดการกระตุ้นให้มหาวิทยาลัยในประเทศมีการจัดทำหลักสูตรการเรียนการสอนด้านความตระหนักในการส่งเสริมการพัฒนาบุคลากรด้าน Digital Content ซึ่งในปัจจุบันมีมหาวิทยาลัยที่มีหลักสูตรการเรียนการสอนเกี่ยวกับ Digital Content กระจายไปทั่วภูมิภาคจำนวน 28 หลักสูตร 27 มหาวิทยาลัย และมีบุคลากรที่มีคุณภาพเข้าสู่อุตสาหกรรมซอฟต์แวร์มากขึ้น
นอกจากนี้ซิป้ายังมุ่งเน้นผลักดันโครงการประจำปีและโครงการ Flagship ในปี 2559 เพื่อเสริมศักยภาพอุตสาหกรรมด้านต่างๆ ทั้งด้านการท่องเที่ยวที่เกี่ยวข้องกับ Thailand Tourism Open Platform, โครงการ TECH STARTUP, โครงการ HEALTHCARE เกี่ยวกับ Personal Health Record, การเชื่อมโยงข้อมูลจากระบบ HIS และข้อมูลสุขภาพจังหวัด เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงข้อมูลได้, โครงการ SMEs ใช้ ICT และทำ E-Business, โครงการ Phuket Smart City เพื่อสร้างอุตสาหกรรมดิจิทัลที่จังหวัดภูเก็ตให้เป็นสถานที่ทำงาน และเจรจาธุรกิจของนักทำงานด้านดิจิทัลและนักลงทุน อีกทั้งการพัฒนาบุคลากรและส่งเสริมผู้ประกอบการทั้งระดับประเทศ และระดับโลกผ่านเวทีประกวด ได้แก่ THAILAND ICT AWARDS: การประกวดผลงานซอฟต์แวร์ดีเด่นแห่งชาติTHAILAND DIGI CHALLENGE: การประกวดผลงาน Digital Content ดีเด่นแห่งชาติ, ANGEL IN THE CITY: การประกวดผลงานผู้ประกอบการซอฟต์แวร์รายใหม่แห่งชาติ, ASIA PACIPIC ICT AWARDS, ACM-ICPC ASIA: เจ้าภาพการแข่งขันเขียนโปรแกรมระดับโลก, ASIAN ANIMATION SUMMIT: Pitching ด้านAnimation ที่เกาหลีใต้ ขณะที่การส่งเสริมด้านการตลาดยังมุ่งมั่นในการจัดงาน SOFTWARE EXPO ASIA: มหกรรมการแสดงนวัตกรรมดิจิทัล และซอฟต์แวร์ในภูมิภาคเอเชีย, งานฺBANGKOK ENTERTAINMENT WEEK & BANGKOK INTERNATIONAL DIGITAL CONTENET FESTIVAL งาน BUSINES MATCHING: งานเจรจาธุรกิจด้านเกมส์ เป็นต้น