น.ส.ฑิตติมา วิชัยรัตน์ ผู้จัดการกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) เปิดเผยถึงผลการชำระหนี้กองทุน กยศ. และกองทุนเงินให้กู้ยืมที่ผูกกับรายได้ในอนาคต (กรอ.) ณ วันที่ 5 ก.ค.59 ซึ่งเป็นวันครบกำหนดชำระหนี้ที่ผ่านมาว่า ในขณะนี้มีผู้กู้ยืม กยศ.มาชำระหนี้แล้วเป็นเงิน 16,124 ล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา 39% และมีผู้กู้ยืม กรอ.มาชำระหนี้แล้วเป็นเงิน 388 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดิม 27%
ทั้งนี้ จากการที่กองทุน กยศ. และกองทุน กรอ.ได้มีผลการชำระเงินคืนมากขึ้น แสดงให้เห็นว่าผู้กู้ยืมได้ตระหนักถึงความรับผิดชอบต่อสังคม ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างภาพลักษณ์ของประเทศไทยให้ดียิ่งขึ้น อีกทั้งเป็นผลดีต่อการดำเนินงานกองทุน โดยสามารถนำเงินดังกล่าวหมุนเวียนกลับไปสร้างโอกาสทางการศึกษาให้ผู้กู้ยืมรุ่นต่อไป
"กองทุนฯ ขอขอบคุณผู้กู้ยืมทุกท่านที่มาชำระเงินคืน เพื่อส่งต่อโอกาสที่เคยได้รับให้กับนักเรียน นักศึกษารุ่นน้อง ส่งให้ผลการชำระหนี้ในช่วงวันครบกำหนด 5 ก.ค.ดีขึ้น ได้รับเงินคืนกว่า 16,000 ล้านบาท เท่ากับเป้าหมายที่ตั้งไว้ทั้งปี ซึ่งมากขึ้นกว่าปีก่อนกว่า 4,500 ล้านบาท" ผู้จัดการ กยศ.กล่าว
พร้อมระบุว่า สำหรับผู้กู้ยืมที่ไม่สามารถไปชำระหนี้ได้ทันวันที่ 5 ก.ค. ยังสามารถติดต่อขอชำระหนี้ได้หลังจากวันดังกล่าวได้ตลอดเวลา แต่จะต้องเสียเบี้ยปรับตามจำนวนวันที่ผิดนัด หากชำระหนี้ล่าช้าก็จะเสียเบี้ยปรับเพิ่มมากขึ้น หรือหากผู้กู้ยืมค้างชำระหนี้เกิน 4 ปี 5 งวด อาจถูกฟ้องร้องดำเนินคดีได้ ดังนั้นเพื่อเป็นผลดีกับตัวผู้กู้ยืมและผู้ค้ำประกัน จึงควรรีบชำระหนี้ที่ค้างให้มีสถานะเป็นปกติ หากผู้กู้ยืมจะชำระหนี้ปิดบัญชีภายใน 30 ก.ย.นี้ กองทุนจะลดเบี้ยปรับให้ 100%