น.ส.ศิรินารถ ใจมั่น อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าคณะผู้แทนไทย เปิดเผยว่า จะเข้าร่วมการประชุมคณะกรรมการเจรจาการค้าไทย-อินเดีย ครั้งที่ 30 ระหว่างวันที่ 13 - 14 กรกฎาคม 2559 ที่กรุงนิวเดลี ประเทศอินเดีย โดยการเจรจา FTA ไทย-อินเดีย ยืดเยื้อมานานกว่า 10 ปี เนื่องจากทั้งสองฝ่ายยังไม่สามารถตกลงกันได้ในหลายประเด็น เช่น ข้อเสนอการเปิดตลาดสินค้า การจัดทำข้อบทการค้าบริการ การจัดทำข้อบทการลงทุน เป็นต้น ซึ่งการประชุมครั้งนี้เป็นการประชุมหลังเว้นว่างมากว่า 1 ปี โดยการพบปะหารือระหว่างผู้นำไทย-อินเดียที่ผ่านมาหลายครั้ง ทั้งสองฝ่ายมีความเห็นพ้องกันให้เร่งหาข้อสรุปการเจรจาโดยเร็ว
สำหรับการเจรจาครั้งนี้ จะประกอบด้วย การประชุมคณะกรรมการเจรจากการค้า (TNC) ควบคู่ไปกับการประชุมคณะทำงานกลุ่มย่อย อาทิ คณะทำงานด้านการค้าสินค้า คณะทำงานด้านกฎถิ่นกำเนิดสินค้าและศุลกากร คณะทำงานด้านการค้าบริการ คณะทำงานด้านการลงทุน คณะทำงานด้านมาตรการสุขอนามัยและสุขอนามัยพืช (SPS) และคณะทำงานด้านมาตรการอุปสรรคที่เป็นเทคนิคทางการค้า (TBT)
"โดยไทยหวังว่าหากสามารถสรุปผลการเจรจา FTA ระหว่างกันได้ จะเป็นประโยชน์แก่ทั้งสองฝ่ายทั้งด้านการค้าและการลงทุน เนื่องจากเป็นการขจัดอุปสรรคทางการค้าทั้งในรูปภาษีและที่ไม่ใช่ภาษี การเพิ่มโอกาสการนำเข้าสินค้า รวมถึงวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตระหว่างกันมากขึ้น ซึ่งจะเป็นโอกาสในการขยายการค้าและการลงทุนระหว่างกัน" อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กล่าว
ทั้งนี้ ไทยตั้งอยู่ในจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญ โดยตั้งอยู่ใจกลางของภูมิภาคอาเซียน ซึ่งอินเดียสามารถใช้ไทยเป็นศูนย์กลางทางโลจิสติกส์เพื่อเชื่อมโยงไปยังประเทศอาเซียนอื่น รวมไปถึงประเทศในเอเชียตะวันออก เช่น จีน ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ เป็นต้น โดยจะเป็นศูนย์กลางในการกระจายสินค้าและแหล่งลงทุนใหม่ให้แก่อินเดียได้ ในขณะที่อินเดียมีนโยบาย Act East ที่สอดคล้องกับไทยที่มีนโยบาย Look West และนโยบาย Make in India ที่จะดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศมากยิ่งขึ้น และไทยก็สามารถใช้อินเดียเป็นจุดเชื่อมโยงไปยังประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคเอเชียใต้ และตะวันออกกลางได้เช่นกัน
ปัจจุบันนักลงทุนไทยเข้าไปลงทุนในอินเดียมากขึ้น อาทิ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด, บริษัท อิตาเลียนไทย เดเวล๊อปเมนต์ จำกัด และบริษัท ศรีไทยซุปเปอร์แวร์ จำกัด
น.ส.ศิรินารถ กล่าวว่า ในปี 2558 อินเดียเป็นคู่ค้าอันดับที่ 15 ของไทย และเป็นคู่ค้าอันดับที่ 1 ของไทยในภูมิภาคเอเชียใต้ โดยการค้าสองฝ่ายมีมูลค่า 7,924.25 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลงจากปีก่อนหน้า 8.44% โดยไทยได้เปรียบดุลการค้า 2,667.48 ล้านเหรียญสหรัฐ ไทยส่งออกมูลค่า 5,295.87 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลงจากปีก่อนหน้า 5.68% และนำเข้ามูลค่า 2,628.39 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลงจากปีก่อนหน้า 13.53%
สินค้าส่งออกของไทยไปอินเดียที่มีศักยภาพ เช่น เพชรพลอย อัญมณีและเครื่องประดับ สินค้าอุปโภคบริโภค น้ำผลไม้ ผลไม้แปรรูปอื่นๆ อาหารแปรรูป ของเล่น เครื่องใช้ไฟฟ้า และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น และสินค้าส่งออกของอินเดียมาไทย เช่น เครื่องเพชรพลอย อัญมณี เคมีภัณฑ์ สินแร่โลหะ เศษโลหะ เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ ผลิตภัณฑ์เวชกรรม เภสัชกรรม เป็นต้น