พาณิชย์ คาดยอดจดทะเบียนบริษัทใหม่ H2/59 พุ่ง หลังกม.หลักประกันทางธุรกิจมีผลบังคับใช้

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday July 12, 2016 16:27 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

น.ส.ผ่องพรรณ เจียรวิริยะพันธ์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า คาดว่า ยอดขอจดทะเบียนจัดตั้งนิติบุคคลใหม่ในช่วงครึ่งปีหลังของปีนี้จะเพิ่มมากขึ้น แม้ว่าในช่วงครึ่งปีแรก (ม.ค.-มิ.ย.) เพิ่มขึ้น 1% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน มาอยู่ที่ 31,792 ราย เนื่องจาก พ.ร.บ.หลักประกันทางธุรกิจ พ.ศ.2558 มีผลบังคับใช้แล้ว ทำให้ผู้ประกอบการขนาดกลางและเล็ก (เอสเอ็มอี) และผู้เริ่มต้นทำธุรกิจ (สตาร์ท อัพ) ขอสินเชื่อทำธุรกิจได้ง่ายขึ้น โดยสามารถนำทรัพย์สิน เครื่องจักร สินค้าคงคลัง ทรัพย์สินทางปัญญา เป็นต้น มาเป็นหลักประกันในการขอกู้เงินจากสถาบันการเงินได้ และขณะนี้ กรมฯได้เปิดให้สถาบันการเงินนำสัญญาขอสินเชื่อ โดยใช้หลักประกันทางธุรกิจมาจดทะเบียนแล้ว ซึ่งจะส่งผลให้มีการจัดตั้งธุรกิจใหม่เพิ่มขึ้นด้วย

"ตั้งแต่วันที่ 4-11 ก.ค.59 มีผู้มายื่นขอจดทะเบียนหลักประกันธุรกิจแล้ว 38,200 คำขอ ยอดเงินกู้รวม 162,000 ล้านบาท ส่วนใหญ่ 96% เอาสมุดบัญชีธนาคาร (Book Bank) มาเป็นหลักประกันเงินกู้ ที่เหลืออีก 4% เป็นสินค้าคงคลัง มูลค่า 3,241 ล้านบาท เครื่องจักร 3,115 ล้านบาท รถยนต์ 3,318 ล้านบาท และลูกหนี้ 38 ล้านบาท" น.ส.ผ่องพรรณ กล่าว

สำหรับในเดือนมิ.ย. 59 การจดทะเบียนธุรกิจ มีผู้ประกอบธุรกิจมายื่นขอจดทะเบียนจัดตั้งนิติบุคคลใหม่ทั่วประเทศรวม 5,916 ราย เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน 36% โดยประเภทธุรกิจที่จดทะเบียนจัดตั้งสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจขายส่งเครื่องจักร ธุรกิจภัตตาคาร/ร้านอาหาร และธุรกิจให้คำปรึกษาด้านการจัดการ

ขณะที่นิติบุคคลที่จดทะเบียนเลิกในเดือนมิ.ย.59 มีจำนวน 1,392 ราย เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน 43% โดยกิจการที่เลิกสูงสุดคือ ธุรกิจค้าสลากที่มีจำนวน 139 ราย หรือคิดเป็น 10% ของจำนวนนิติบุคคลที่จดทะเบียนเลิกทั้งหมดในเดือนมิ.ย. ซึ่งสาเหตุส่วนใหญ่เลิกเนื่องจากธุรกิจไม่ได้ประกอบกิจการ

นอกจากนี้ ในวันนี้ กรมฯได้เพิกถอนทะเบียนบริษัทอีก 2 แห่ง ได้แก่ 1.บริษัท เนเชอรัล เบย์ รีสอร์ท จำกัด ทำธุรกิจเกี่ยวกับโรงแรมและรีสอร์ทที่ จ.พังงา 2.บริษัท เซียนชาบู ชาบู จำกัด ทำธุรกิจเกี่ยวกับภัตตาคารและร้านอาหารที่ จ.ภูเก็ต จากก่อนหน้านี้ได้เพิกถอนไปแล้ว 13 บริษัท รวมเป็น 15 บริษัท

"ตั้งแต่ปี 58 กรมฯ มีแผนตรวจสอบนอมินี หรือกรณีคนไทยถือหุ้นแทนคนต่างด้าว เพื่อให้ประกอบธุรกิจต้องห้าม หรือธุรกิจที่ต้องขออนุญาตโดยไม่ต้องขออนุญาต ตาม พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าวพ.ศ.2542 ใน 10 จังหวัดท่องเที่ยว ซึ่งล่าสุดตรวจไปแล้ว 9 จังหวัด รวม 327 ราย พบว่า เข้าข่ายนอมินี 15 ราย แบ่งเป็นธุรกิจร้านอาหาร 11 ราย ท่องเที่ยว 2 ราย ขายของที่ระลึก 1 ราย และเช่ารถ 1 ราย ซึ่งในเดือนก.ค.นี้ จะประสานกับตำรวจท่องเที่ยว และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตรวจสอบในกรุงเทพฯ" น.ส.ผ่องพรรณ กล่าว

แท็ก ประกัน  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ