นางฤชุกร สิริโยธิน ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายนโยบายสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.59 ซึ่งเป็นวันที่ธนาคารพาณิชย์ได้เปิดรับลงทะเบียนผูกบัญชี PromptPay ล่วงหน้า พบว่ามีประชาชนเข้ามาลงทะเบียนแล้วรวม 9.7 ล้านราย แบ่งเป็นลงทะเบียนโดยหมายเลขบัตรประจำตัวประชาชน 8.1 ล้านราย และลงทะเบียนโดยหมายเลขโทรศัพท์มือถือ 1.6 ล้านราย
อย่างไรก็ดี ในกรณีที่ผู้ใช้อยากจะเปลี่ยนการผูกบัญชีกับธนาคารก็สามารถยกเลิกได้ โดยให้แจ้งกับธนาคารในสังกัดเดิมและทำการขอย้ายเปลี่ยนใหม่ โดยผู้ใช้ 1 คน สามารถผูกบัญชีได้ทั้งหมด 4 บัญชี โดยผูกกับ 1 หมายเลขบัตรประชาชน และไม่เกิน 3 หมายเลขโทรศัพท์มือถือ
นางฤชุกร ได้ให้คำแนะนำประชาชนในการใช้บริการระบบ PromptPay ว่า ต้องมีความระมัดระวังในการตั้งรหัสเข้าระบบและรหัสผ่าน โดยห้ามบอกรหัสดังกล่าวให้ผู้อื่นรู้ รวมทั้งรักษาอุปกรณ์ เช่น โทรศัพท์มือถือ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ที่ใช้เชื่อมต่อการทำธุรกรรมเกี่ยวกับระบบ PromptPay เพื่อไม่ให้ผู้อื่นสามารถนำไปใช้งานได้ และผู้โอนเงินควรศึกษาเรียนรู้วิธีการใช้งาน เช่น การตรวจสอบข้อมูลให้ถูกต้องก่อนยืนยันการโอน
ทั้งนี้ การรักษาความปลอดภัยในระบบ PromptPay มีด้วยกัน 3 ระดับ คือ 1.การลงทะเบียน จะต้องใช้หมายเลขบัตรประชาชน หรือโทรศัพท์มือถือ ในกรณีที่หมายเลขมือถือไม่ใช่เจ้าของเบอร์จะต้องมีหนังสือยินยอมให้ใช้ก่อน ต้องมีการแสดงตัวตนชัดเจน 2.ผู้ให้บริการธนาคารพาณิชย์และระบบบริการธุรกรรมชำระเงิน NITMX จะต้องดำเนินไปตามกฎเกณฑ์ที่ ธปท.กำหนด และ 3.ประชาชนที่ใช้บริการต้องระมัดระวัง และดูแลตัวเอง
"สถาบันการเงินจะรับผิดชอบต่อความเสียหายจากระบบ PromptPay ก็ต่อเมื่อในกรณีที่เป็นความเสียหายที่พิสูจน์ได้ว่าเกิดจากตัวระบบเอง ในกรณีที่ผู้บริการใช้อุปกรณ์ไม่ถูกต้อง เช่น การนำมือไปเจลเบรก ซึ่งเสี่ยงต่อการถูกขโมยข้อมูลจากแฮคเกอร์ ธนาคารก็มีสิทธิที่จะไม่รับผิดชอบ ซึ่งต้องดูแลระมัดระวังตัวเองด้วย" นางฤชุกร กล่าว
พร้อมระบุว่า ระบบ PromptPay เป็นระบบทางเลือก จึงไม่ได้บังคับให้ทุกคนต้องใช้ ขึ้นอยู่กับความสมัครใจ ซึ่ง ธปท.ยืนยันว่าตัวระบบมีความปลอดภัยสูง โดยผู้ใช้ก่อนเข้ารับบริการจะต้องมีรหัสส่วนตัวเพื่อดำเนินการโอนผ่านช่องทางที่ดูแลโดย NITMX ซึ่งเป็นผู้พัฒนาระบบในต่างประเทศเช่น อังกฤษ และสิงคโปร์ โดยระบบเป็นระบบปิดระหว่างธนาคาร ซึ่งบุคคลอื่นไม่สามารถต่อเข้าไปได้
ทั้งนี้ หากมีบุคคลอื่นรู้เลขบัตรประชาชน หรือหมายเลขโทรศัพท์มือถือก็ตาม ก็จะไม่สามารถโอนเงินออกจากบัญชีได้ เนื่องจากหมายเลขโทรศัพท์หรือเลขบัตรประชาชน จะใช้เป็นหมายเลขที่รับการโอนเท่านั้น กรณีโทรศัพท์มือถือหายหรือไม่ได้ใช้งานแล้ว ก็จะนำไปโอนเงินให้ผู้อื่นไม่ได้ หากไม่ทราบหมายเลขรหัสเข้าระบบและรหัสผ่านของตัวเจ้าของบัญชี ขณะเดียวกันผู้ใช้ต้องรีบไปยกเลิกการลงทะเบียนผูกบัญชี PromptPay เพื่อเป็นการรักษาผลประโยชน์ด้วย