รายงานข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ ระบุว่า ในวันพรุ่งนี้ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี จะร่วมประชุมกับรัฐมนตรีและผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงพาณิชย์ เพื่อติดตามความก้าวหน้าของงานที่เคยได้มอบนโยบายไว้ โดยเฉพาะการสร้างความเข้มแข็งให้กับเศรษฐกิจภายในประเทศ ทั้งการพัฒนาผู้ประกอบการรายใหม่ (Startup), การพัฒนาเศรษฐกิจชุมชนผ่านการจัดตั้งตลาดต้องชม-ตลาดชุมชน, การผลักดันให้ผู้ประกอบการขนาดกลางและเล็ก (SMEs) ใช้การค้าออนไลน์ เพื่อเพิ่มช่องทางการตลาดให้มากขึ้น
นอกจากนี้ รองนายกรัฐมนตรีจะติดตามความคืบหน้าการเปิดรับฟังความคิดเห็นการเข้าร่วมเป็นสมาชิกความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก (TPP) และติดตามสถานการณ์และแผนงานการผลักดันการส่งออกในช่วงที่เหลือของปีนี้ หลังจากได้รับงบกลางปีจากรัฐบาลเพื่อผลักดันให้การมูลค่าการส่งออกของไทยในปีนี้ขยายตัวตามเป้าหมายที่ 5% จากปีก่อน แม้จะมีปัจจัยกดดันทั้งเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจคู่ค้าที่ยังชะลอตัว
ด้าน น.ส.วิบูลย์ลักษณ์ ร่วมรักษ์ อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า ได้เตรียมรายงานความคืบหน้าการดำเนินงานกระตุ้นเศรษฐกิจภายใน โดยเฉพาะการผลักดันการเปิดตลาดต้องชมที่จะเปิดได้ครบ 77 แห่งใน 77 จังหวัดภายในเดือน ส.ค.นี้ การจัดทำหมู่บ้านทำมาค้าขายที่ส่งเสริมและสนับสนุนให้คนในชุมชนสามารถทำมาค้าขายเป็น และจะเปิดนำร่องให้ได้ 10 แห่งภายในปีนี้ การขยายตลาดสินค้าอินทรีย์ สินค้า OTOP เป็นต้น
สำหรับการดูแลราคาสินค้านั้น ขณะนี้สถานการณ์ราคาทรงตัว ไม่มีสินค้ารายการใดปรับขึ้นราคา ขณะที่การดูแลราคาอาหารปรุงสำเร็จได้ขยายจำนวนร้านอาหารที่เข้าร่วมโครงการ"หนูณิชย์พาชิม"โดยขายอาหารปรุงสำเร็จไม่เกินจานละ 35 บาท ไปแล้วกว่า 11,000 ร้านทั่วประเทศ และยังได้ขยายเข้าสู่โรงงานอุตสาหกรรม รวมถึงนิคมอุตสาหกรรมต่าง ๆ เพื่อช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยด้วย