นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้กระทรวงพาณิชย์เดินหน้าเจรจาการค้าในรูปแบบหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ทวิภาคี (Bilateral strategic partnership) กับประเทศเป้าหมาย คือ จีนและอินเดีย โดยเน้นอุตสาหกรรมเป้าหมายที่ไทยต้องการส่งเสริมการลงทุนจากต่างประเทศ ซึ่งจะเกิดความรวดเร็วและได้ข้อสรุปที่เป็นประโยชน์กับทั้ง 2 ฝ่ายได้มากกว่าการเจรจาข้อตกลงเขตการค้าเสรี (FTA) ที่บางข้อตกลงยังไม่สามารถหาข้อสรุปได้ และที่สำคัญจะไม่เจรจาประเด็นที่จะส่งผลกระทบต่อเกษตรกรในประเทศ
โดยประเทศเป้าหมายแรก คือ จีน ซึ่งสนใจพัฒนาอุตสาหกรรมเทคโนโลยีและนวัตกรรมเช่นเดียวกับไทย และยังสนใจออกไปลงทุนนอกประเทศ เบื้องต้นตั้งเป้าหมายจะเดินทางไปเยือนจีนก่อน และคาดว่าจะเริ่มเจรจาทวิภาคีได้ในช่วงดังกล่าว
ส่วนประเทศเป้าหมายที่สอง คือ อินเดีย ซึ่งต้องการให้ไทยเปิดตลาดวิชาชีพ เช่น แพทย์ วิศวกร วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ในขณะที่อินเดียสนใจให้ไทยไปพัฒนาด้านบริการต่างๆ เช่น การท่องเที่ยว การโรงแรม อุตสาหกรรมก่อสร้าง โดยมีแผนจะให้ รมว.พาณิชย์เดินทางไปเยือนเร็วๆ นี้ และจะเริ่มเปิดการเจรจาทันที
รองนายกรัฐมนตรี กล่าวด้วยว่า จะเริ่มหารือทวิภาคีลักษณะเดียวกันนี้กับประเทศในกลุ่ม CLMV ด้วย (กัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนาม) แต่จะเน้นการช่วยเหลือด้านการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน เพราะการที่ CLMV เจริญมากขึ้นเท่าไร ก็จะส่งผลดีต่อไทยเช่นกันในฐานะที่ไทยเป็นประตูสู่อาเซียน
"ได้มอบหมายให้กระทรวงพาณิชย์ไปวางแผนงาน และตามงานว่าจะเดินหน้าเจรจาการค้ากับใคร และสาขาใดบ้าง เบื้องต้นมีอินเดียและจีนที่ไทยต้องการเจรจาแลกเปลี่ยนการเป็นหุ้นส่วนการค้ากันในกลุ่มของอุตสาหกรรมไฮเทคโนโลยี และดิจิตอล ซึ่งเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมเป้าหมายไทยแลนด์ 4.0 การเจรจาแบบนี้ จะช่วยเพิ่มยอดการส่งออกของไทย และยังเกิดผลดีระยะยาวในการสร้างสัมพันธ์เชิงลึกที่ดีระหว่างกันด้วย แต่การเจรจานี้จะทำควบคู่กับการทำข้อตกลงเขตการค้าเสรี (FTA)" นายสมคิด กล่าวภายหลังประชุมร่วมกับผู้บริหารกระทรวงพาณิชย์ เพื่อติดตามผลการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาล
พร้อมระบุว่า ได้ย้ำถึงเรื่องการพัฒนาขีดความสามารถการแข่งขันของประเทศ โดยกำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ทำให้ไทยมีความสามารถการแข่งขันที่ดีขึ้น ตั้งเป้าหมายว่าการจัดอันดับความสามารถในการแข่งขันของไทย โดยสถาบันการจัดการนานาชาติ (IMD) ในปี 60 จะดีขึ้นมาอยู่ที่อันดับ 20-25 จากปี 59 ที่อยู่อันดับ 28
ด้านนายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รมช.พาณิชย์ กล่าวว่า ในการเจรจาหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ทวิภาคี ได้แบ่งกลุ่มประเทศที่จะเจรจาด้วยไว้ 3 กลุ่ม คือ 1.กลุ่ม CLMV ที่จะเน้นการพัฒนาให้มีความเจริญร่วมกัน โดยจะเป็นรูปแบบความร่วมมือลักษณะรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) ในการช่วยเหลือการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐาน เช่น ถนนในการเชื่อมโยงประเทศต่างๆ ใน CLMV โดยมีไทยเป็นเป็นเกตเวย์ 2.จีน อินเดีย ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และสิงคโปร์ ที่จะเจรจาเพื่อแลกเปลี่ยนด้านการค้าและการลงทุนในส่วนที่แต่ละฝ่ายมีศักยภาพ โดยไทยต้องการไฮเทคโนโลยี และ 3. กลุ่มอื่นๆ เช่น รัสเซีย อิหร่าน ที่มีขีดความสามารถพิเศษในการพัฒนาต่อยอดในอนาคต