นายธีรัชย์ อัตนวานิช รองผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการจำหน่ายพันธบัตรออมทรัพย์ของกระทรวงการคลัง ในปีงบประมาณ 2559 ครั้งที่ 2 วงเงิน 2 หมื่นล้านบาทว่า ตั้งแต่เปิดจำหน่ายเมื่อวันที่ 12 พ.ค.จนถึงล่าสุด 22 ก.ค.59 พบว่า มียอดการจำหน่ายรวมของ 4 สถาบันการเงิน ได้แก่ ธนาคารกรุงเทพ (BBL) ธนาคารกรุงไทย (KTB) ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) และธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) รวมอยู่ที่ 17,123 ล้านบาท หรือคิดเป็น 86% ของวงเงินที่ได้รับจัดสรร โดยยังมีวงเงินคงเหลืออีกราว 2,876 ล้านบาท
ทั้งนี้ ยอดการจำหน่ายสะสมของแต่ละสถาบันการเงิน แบ่งเป็น ธนาคารกรุงเทพ ได้รับจัดสรร 5,450 ล้านบาท มียอดการจำหน่ายสะสมแล้ว 4,605 ล้านบาท คิดเป็น 85% ของวงเงินที่ได้รับจัดสรร และยังมีวงเงินจำหน่ายคงเหลือ 844 ล้านบาท, ธนาคารกรุงไทย ได้รับจัดสรร 6,450 ล้านบาท มียอดจำหน่ายสะสมแล้ว 6,164 ล้านบาท คิดเป็น 96% ของวงเงินที่ได้รับจัดสรร และมียอดวงเงินจำหน่ายคงเหลือ 285 ล้านบาท
ธนาคารกสิกรไทย ได้รับจัดสรร 3,850 ล้านบาท มียอดจำหน่ายสะสมแล้ว 3,024 ล้านบาท คิดเป็น 79% ของวงเงินที่ได้รับจัดสรร โดยมีวงเงินจำหน่ายคงเหลือ 825 ล้านบาท และธนาคารไทยพาณิชย์ ได้รับจัดสรร 4,250 ล้านบาท มียอดจำหน่ายสะสมแล้ว 3,329 ล้านบาท หรือคิดเป็น 78% ของวงเงินที่ได้รับจัดสรร มีวงเงินจำหน่ายคงเหลือ 920 ล้านบาท
สำหรับพันธบัตรออมทรัพย์ดังกล่าว มีอัตราดอกเบี้ยแบบขั้นบันได แบ่งเป็น 2 รุ่น รุ่นอายุ 5 ปี อัตราดอกเบี้ยปีที่ 1 อยู่ที่ 1.75% ต่อปี, ปีที่ 2-3 อยู่ที่ 2.00% ต่อปี, ปีที่ 4 อยู่ที่ 2.50% ต่อปี และปีที่ 5 อยู่ที่ 3.00% ต่อปี และรุ่นอายุ 10 ปี มีอัตราดอกเบี้ยปีที่ 1-5 อยู่ที่ 2.25% ต่อปี, ปีที่ 6-9 อยู่ที่ 3.00% ต่อปี และปีที่ 10 อยู่ที่ 3.50% ต่อปี โดยเปิดจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 12 พ.ค. - 31 ส.ค.59
อย่างไรก็ดี ผู้ที่สนใจซื้อพันธบัตรสามารถทำรายการซื้อผ่านเคาน์เตอร์ทุกสาขา, เครื่องถอนเงินอัตโนมัติ (ATM) และผ่านระบบอินเตอร์เน็ตของธนาคารตัวแทนจำหน่ายทั้ง 4 แห่ง ได้จนถึง 31 ส.ค.59 หรือจนกว่าจำหน่ายได้ครบวงเงิน