นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยถึงฐานะการคลังของรัฐบาลตามระบบกระแสเงินสดในช่วง 9 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2559 (ตุลาคม 2558 – มิถุนายน 2559) รัฐบาลมีรายได้นำส่งคลังทั้งสิ้น 1,807,149 ล้านบาท สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้ว 172,650 ล้านบาท (คิดเป็นร้อยละ 10.6) ซึ่งมีสาเหตุหลักมาจากการนำส่งรายได้จากการประมูลใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ย่าน 900 และ 1800 MHz (4G) การรับรู้เงินส่วนเกินจากการจำหน่ายพันธบัตรเป็นรายได้และการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตน้ำมันที่สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้ว
ในขณะที่การเบิกจ่ายเงินงบประมาณมีจำนวนทั้งสิ้น 2,248,650 ล้านบาท สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้ว 217,362 ล้านบาท (คิดเป็นร้อยละ 10.7) รัฐบาลได้กู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุล 375,180 ล้านบาท ส่งผลให้เงินคงคลัง ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2559 มีจำนวนทั้งสิ้น 235,449 ล้านบาท
“รัฐบาลยังคงให้ความสำคัญในการเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณ โดยในช่วง 9 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2559 สามารถเบิกจ่ายงบประมาณได้กว่า 2.2 ล้านล้านบาท หรือร้อยละ 72.9 ของวงเงินงบประมาณ สูงกว่าช่วงเดียวกันของปีที่แล้วร้อยละ 10.7 โดยเฉพาะในส่วนของการเร่งรัดเบิกจ่ายในรายจ่ายลงทุนที่เพิ่มสูงขึ้น จะช่วยสนับสนุนการฟื้นตัวและส่งผลให้เศรษฐกิจขยายตัวเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้"นายกฤษฎา กล่าว
ทั้งนี้ เดือนมิถุนายน 2559 รัฐบาลเกินดุลเงินสดจำนวน 42,882 ล้านบาท โดยเป็นการเกินดุลเงินงบประมาณ 74,249 ล้านบาท ในขณะที่ดุลเงินนอกงบประมาณขาดดุล 31,367 ล้านบาท ส่งผลให้ในช่วง 9 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2559 รัฐบาลขาดดุลเงินสดจำนวน 565,913 ล้านบาท ทั้งนี้ รัฐบาลได้กู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุลจำนวน 375,180 ล้านบาท ส่งผลให้เงินคงคลัง ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2559 มีจำนวน 235,449 ล้านบาท