สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) แถลงดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI) เดือนมิ.ย.59 อยู่ที่ 108.88 ขยายตัว 0.82% จาก 107.99 โดยมีอัตราการใช้กำลังการผลิตของภาคอุตสาหกรรมอยู่ที่ 66.29 เพิ่มขึ้นจาก 66.08 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่งผลให้ ดัชนี MPI ไตรมาส 2/59 ขยายตัว 1.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
นายวีรศักดิ์ ศุภประเสริฐ รองผู้อำนวยการ สศอ. เปิดเผยว่า ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI) เดือนมิ.ย.59 ได้ขยายตัวเป็นบวกต่อเนื่อง โดยปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.82% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
สำหรับอุตสาหกรรมที่ส่งผลให้ MPI เดือน มิ.ย.59 เป็นบวก ได้แก่ รถยนต์ มีการผลิตเพิ่มขึ้น 13.27% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน จากสินค้าประเภทรถปิคอัพ รถยนต์นั่งขนาดเล็ก และรถยนต์นั่งขนาดใหญ่
รถจักรยานยนต์ มีการผลิตเพิ่มขึ้น 18.49% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากกำลังซื้อของผู้บริโภคเพิ่มขึ้น
เครื่องปรับอากาศและชิ้นส่วน มีการผลิตเพิ่มขึ้นถึง 50.12% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน จากสินค้าประเภทคอนเดนซิ่งยูนิต และแฟนคอยล์ยูนิต เนื่องจากอากาศที่ร้อนมากขึ้นทำให้เครื่องปรับอากาศมีความต้องการมากขึ้น นอกจากนี้ ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ที่มีคำสั่งซื้อเข้ามาเป็นจำนวนมากมีการผลิตเพิ่มขึ้น 4.50% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
เครื่องสำอาง มีการผลิตเพิ่มขึ้น 13.01% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน จากผลิตภัณฑ์สบู่และเครื่องบำรุงผิว ผงซักฟอก ยาสระผม น้ำยาล้างจาน น้ำยาปรับผ้านุ่ม และแป้งฝุ่น
"การขยายตัวดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงสัญญาณการฟื้นตัวของภาคอุตสาหกรรมที่เริ่มมีความชัดเจนขึ้นตามลำดับ" นายวีรศักดิ์ กล่าว
ขณะที่ในช่วงไตรมาส 2/59 อุตสาหกรรมสำคัญที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น ได้แก่ อุตสาหกรรมรถยนต์ มีการผลิตรถยนต์ประมาณ 486,000 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 18.45% โดยเป็นการผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศประมาณ 187,000 คัน เพิ่มขึ้น 9.19% และเป็นการผลิตเพื่อการส่งออกประมาณ 287,000 คัน
อุตสาหกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ ในไตรมาส 2/2559 การผลิตในภาพรวมปรับตัวเพิ่มขึ้น 7.39% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยอุตสาหกรรมไฟฟ้าปรับตัวเพิ่มขึ้น 17.61% เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยที่อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ ปรับตัวลดลง 0.03% เมื่อเทียบกับปีก่อน อย่างไรก็ตาม ความต้องการ IC คาดว่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้น จากการพัฒนาสินค้าที่มีการใช้เทคโนโลยีที่สูงขึ้น
อุตสาหกรรมเหล็กและเหล็กกล้า ในไตรมาส 2/2559 มีการผลิตเพิ่มขึ้น 2.26% การบริโภคและการจำหน่ายในประเทศเพิ่มขึ้น 25.81% ซึ่งคาดว่าตลาดในประเทศจะฟื้นตัวต่อเนื่อง จากอานิสงค์เม็ดเงินลงทุนจากโครงการพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของภาครัฐที่จะส่งผลให้การผลิตเหล็กเส้นในประเทศเพิ่มมากขึ้น