นักบริหารเงินจากธนาคารธนชาต เปิดเผยว่า เงินบาทล่าสุดอยู่ที่ระดับ 34.85/86 บาท/ดอลลาร์ ใกล้เคียงตอนเช้าที่ อยู่ที่ระดับ 34.85/87 บาท/ดอลลาร์
"ภาพรวมเงินบาทวันนี้ลงมาแล้วก็อยู่นิ่งๆ แต่ดอลลาร์เยนวิ่งมาก หลังจากมติ BOJ ออกมาไม่มีอะไรออกมามากนักทำให้ ตลาดค่อนข้างผิดหวัง เยนค่อนข้างแข็งค่าที่ 102.90 จากนี้ไปก็ให้รอดูทางสหรัฐอเมริกา ตลาดนิวยอร์คว่าจะ React อย่างไร บ้าง แต่ดอลลาร์บาทเองก็เรียกว่ายัง Pressure อยู่ในส่วนของเงินทุนไหลเข้า แต่เข้าใจว่าทางธปท.ก็ยังดูแลอยู่ เพราะถ้าหลุด 34.85 ไปอาจจะลงเยอะ" นักบริหารเงิน กล่าว
สำหรับทิศทางเงินบาทมองว่าจะเคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 34.80-35.00 บาท/ดอลลาร์
"ถ้าแถว 34.80 กว่าๆ ยังรับอยู่ก็อาจจะเด้งขึ้นมาในระยะสั้น ด้านบนก็คงอยู่ประมาณ 35.00"นักบริหารเงินกล่าว
ล่าสุด THAI BAHT SPOT RATE FIXING อยู่ที่ระดับ 34.8600 บาท/ดอลลาร์
- ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 103.80 เยน/ดอลลาร์ จากตอนเช้าที่อยู่ที่ระดับ 104.21 เยน/ดอลลาร์
- ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1090 ดอลลาร์/ยูโร จากตอนเช้าที่อยู่ที่ระดับ 1.1077 ดอลลาร์/ยูโร
- รมว.คลัง เปิดเผยถึงกรณีเงินทุนไหลเข้าค่อนข้างมาก ปัจจัยนี้ไม่ได้ส่งผลต่อเสถียรภาพเศรษฐกิจของไทย ซึ่ง
- ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) แถลงภาวะเศรษฐกิจและการเงินเดือน มิ.ย.59 และไตรมาส 2/59 โดยระบุ
- ธปท.ยังคงประมาณการขยายตัวส่งออกในปีนี้ไว้ที่ติดลบ -2.5% เนื่องจากมูลค่าการส่งออกสินค้ายังคงหดตัวต่อเนื่อง
- ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในวันที่ 3 ส.ค.59 จะมีมติคงอัตรา
- สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) รายงานผลการจัดอันดับความน่าเชื่อถือของประเทศไทย โดยบริษัท
- บริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด ระบุว่า จากผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/59 ธนาคารพาณิชย์ไทยมี
- ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) มีมติคงอัตราดอกเบี้ย และซื้อกองทุน ETFs เพิ่มขึ้น ในการประชุมวันนี้ โดย BOJ ได้คง
พร้อมกันนี้ BOJ ได้ขยายวงเงินในการซื้อกองทุน ETFS จากสถาบันการเงินต่างๆเป็น 6 ล้านล้านเยน รวมทั้งปรับ ลดคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อในปีงบประมาณ 2559 ลงเหลือ 0.1% จาก 0.5% ที่คาดการณ์ไว้เมื่อเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา โดยการปรับ ลดคาดการณ์เงินเฟ้อครั้งนี้มีขึ้นในการประชุมนโยบายการเงินวันนี้ ซึ่ง BOJ มีมติใช้นโยบายผ่อนคลายการเงินเพิ่มเติม
นอกจากนี้ BOJ ยังได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจในปีงบประมาณ 2559 ลงสู่ระดับ 1.0% จาก 1.2% ที่คาดการณ์ไว้เมื่อเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา ท่ามกลางความวิตกกังวลเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่เศรษฐกิจทั่วโลกจะชะลอตัวลง อัน เนื่องมาจากผลกระทบของการที่อังกฤษลงมติถอนตัวออกจากสหภาพยุโรป
ส่วนในปีงบประมาณ 2560 นั้น BOJ ได้คงคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อเอาไว้ในระดับเดิมที่ 1.7%