นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ระดับ 34.75/79 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าขึ้น เล็กน้อยจากช่วงเช้าที่เปิดตลาดที่ระดับ 34.78/80 บาท/ดอลลาร์
วันนี้เงินบาทยังเคลื่อนไหวในกรอบแคบ ๆ ระหว่างวันทำ low สุดที่ระดับ 34.74 บาท/ดอลลาร์ และทำ high สุดที่ ระดับ 34.79 บาท/ดอลลาร์ เนื่องจากวันนี้ยังไม่มีปัจจัยสำคัญที่จะมีผลต่อการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทมากนัก ซึ่งตลาดฯ รอดูผล การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในวันพุธนี้ โดยคาดว่าจะมีมติคงดอกเบี้ย
"วันนี้ตลาด move แคบๆ ไม่ค่อยมีปัจจัยอะไร เพราะ overnight ก็แข็งค่าขึ้นไปเยอะแล้ว รอดูประชุม กนง.พุธนี้"
นักบริหารเงิน คาดว่า พรุ่งนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 34.75-34.85 บาท/ดอลลาร์
- ปัจจัยสำคัญ
- ช่วงเย็นนี้ เงินเยนอยู่ที่ระดับ 102.20 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 102.50 เยน/ดอลลาร์
- ส่วนเงินยูโร อยู่ที่ระดับ 1.1172 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.1170 ดอลลาร์/ยูโร
- ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,512.62 จุด ลดลง 11.45 จุด (-0.75%) โดยมีมูลค่าการซื้อขาย 72,711 ล้านบาท
- สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติซื้อสุทธิ 772.79 ลบ.(SET+MAI)
- กระทรวงพาณิชย์ แถลงดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไป (CPI) เดือน ก.ค.59 อยู่ที่ 106.68 ขยายตัว 0.10% เมื่อเทียบ
- สภาผู้ขนส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) คาดการณ์มูลค่าการส่งออกระหว่างเดือนก.ค.-ธ.ค.59 เฉลี่ย
ปัจจัยหลักที่จะส่งผลกระทบกับการส่งออก คือ สถานการณ์ทางเศรษฐกิจของคู่ค้าทั่วโลกที่ส่งผลโดยตรงต่อความเชื่อ มั่น และทำให้ปริมาณการอุปโภคบริโภคของลูกค้าในตลาดเป้าหมายลดลง, การดำเนินการของประเทศอังกฤษในกรณี BREXIT หาก เข้าสู่กระบวนการตามมาตรา 50 ก่อนสิ้นปีอาจจะมีผลต่อการส่งออกของไทยได้ และความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนที่จะส่งผลต่อ ความสามารถในการแข่งขันด้านราคาของสินค้าไทยเสียเปรียบสินค้าจากประเทศคู่แข่งมากยิ่งขึ้น
- รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา คาดแนวโน้มรายได้จากการท่องเที่ยวไตรมาส 3 ที่ 5.97 แสนล้านบาท ขยายตัว 10%
ทั้งนี้ ตั้งแต่ต้นปีจนถึง 31 ก.ค.59 มีรายได้จากการท่องเที่ยว 1.39 ล้านล้านบาท ขยายตัว 13.95% จากช่วงเดียว กันของปีก่อน ขณะที่คาดว่าในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ รายได้รวมจากการท่องเที่ยวจะอยู่ที่ราว 1.848 ล้านล้านบาท คิดเป็น 77% ของเป้ารายได้ทั้งปี จากจำนวนนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่ 33 ล้านคน ขณะที่ทั้งปีคาดว่าจะเกินกว่าเป้าที่คาดไว้ที่ 32 ล้านคน
- ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขานิวยอร์ก กล่าวว่า แม้ว่าเขาจะมีความระมัดระวังในการแสดงความคิด
- ผลสำรวจของมาร์กิตระบุว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของยูโรโซนอยู่ที่ระดับ 52.0 ในเดือนก.
- ธนาคารกลางจีน เปิดเผยว่า ธนาคารได้อัดฉีดเงิน 900 ล้านหยวน (135.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ผ่านโครงการ
- ยอดขายรถยนต์ของประเทศญี่ปุ่นในเดือนก.ค. ลดลง 2.2% จากปีที่แล้ว แตะที่ 415,606 คัน โดยเป็นการปรับตัว
- วันพรุ่งนี้ (2 ส.ค.) มีการรายงานข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญ เช่น ญี่ปุ่น รายงานดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนก.
ค., อังกฤษ รายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการก่อสร้างเดือนก.ค., สหภาพยุโรป (อียู) รายงานดัชนีราคาผู้ผลิต
(PPI) เดือนมิ.ย. และสหรัฐฯ รายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเดือนก.ค.โดยมาร์กิต, รายงานดัชนีภาวะ
ธุรกิจนิวยอร์กเดือนก.ค.โดยสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) และรายงานสต็อกน้ำมันประจำสัปดาห์ โดยการปิโตรเลียม
สหรัฐ (API)