นางรุ่ง มัลลิกะมาส ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายนโยบายเศรษฐกิจการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า การลงทุนโดยตรงของนักลงทุนต่างประเทศ (FDI) ในภาคเศรษฐกิจไทยสุทธิครึ่งปีแรกลดลงค่อนข้างมากถึงประมาณ 1.3 แสนล้านบาทเมื่อเทียบกับครึ่งแรกของปี 58 และต่ำกว่าภาวะปกติมีสาเหตุหลักมาจากการที่นักลงทุนไทยซื้อกิจการธุรกิจค้าปลีกในประเทศจากนักลงทุนต่างชาติในไตรมาสแรกของปี ซึ่งธุรกรรมดังกล่าวมีมูลค่าสูงและลงบัญชีเป็น FDI ไหลออก
หากไม่รวมรายการนี้ FDI สุทธิจะมีมูลค่าต่ำกว่าระยะเดียวกันปีก่อนไม่มาก ซึ่งการลดลงของ FDI ในส่วนที่เหลือไม่ได้น่าตกใจ เพราะมีผลของฐานสูง เนื่องจากในช่วงต้นปี 58 มี FDI รายการใหญ่เข้ามาเพิ่มทุนในธุรกิจโทรคมนาคม ซึ่งเป็นปัจจัยบวกพิเศษ และ มีผลของสินเชื่อการค้าของกิจการในเครือ (Trade Credit) ที่ลดลง สอดคล้องกับมูลค่าการนำเข้าของไทยที่หดตัวในช่วงครึ่งแรกของปีนี้
ทั้งนี้ หากพิจารณาเฉพาะ FDI ขาเข้าในส่วนที่เป็น equity หรือหุ้นทุน ซึ่งเป็นตัวชี้เม็ดเงินลงทุนใหม่นั้น ยังคงมีอยู่ต่อเนื่อง
อนึ่ง กลุ่ม บมจ.เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ (BJC) ได้เข้าซื้อกิจการ บมจ.บิ๊กซี ซูเปอร์มาร์เก็ต (BIGC) จากกลุ่มคาสิโน ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่จำนวน 58.55% ตั้งแต่ช่วงไตรมาสแรกปีนี้ และได้ทำคำเสนอซื้อหุ้นส่วนที่เหลือทั้งหมดเสร็จสิ้นเมื่อเดือน พ.ค.